บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)

BGRIM ลุยขยายการลงทุน

นายฮาราล์ด ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหี บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (BGRIM) เปิดเผยว่า ไตรมาส 3/64 มีกำไรสุทธิ 447.4 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 500.7 ล้านบาท งวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 2,080.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,598.6 ล้านบาท โดยผลประกอบการที่ดีขึ้นมาจากปริมาณไฟฟ้าที่ขายให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรม (IU) ในประเทศไทยเพิ่มขึ้น และการขยายกำลังการผลิตต่อเนื่อง

ในไตรมาส 3 บริษัท ยูนิเวนเจอร์ บีจีพี จำกัด (UVBGP) ซึ่ง BGRIM ถือหุ้น 45% อยู่ระหว่างการซื้อหุ้นทั้งหมดของ บริษัท อีส เทอร์น โคเจนเนอเรชั่น จำกัด เพื่อให้ได้มาซึ่งการถือหุ้นทางอ้อมในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 74.5% ในบริษัท พีพีทีซี จำกัด และสัดส่วน 100% ในบริษัท เอสเอสยูที จำกัด โดยคาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2564 ซึ่งจะทำให้ BGRIM มีโครงการโรงไฟฟ้า SPP รวม 23 โครงการ เพิ่มกำลังการผลิตติดตั้ง 360 เมกะวัตต์ หรืออย่างน้อย 148.2 เมกะวัตต์ ตามสัดส่วนการถือหุ้น เพิ่มกำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. 270 เมกะวัตต์ และขยายพื้นที่ให้บริการสู่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง และนิคมอุตสาหกรรมบางปู ขยายการบริการสู่นิคมอุตสาหกรรมเอเชีย (สุวรรณภูมิ) และนิคมอุตสาหกรรมเอเชีย ได้ทำข้อตกลงร่วมกันเพื่อขยายการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า และระบบสายส่งอัจฉริยะแบบผสมผสาน ในนิคมอุตสาหกรรมเอเชีย (สุวรรณภูมิ) ซึ่ง ครอบคลุมพื้นที่ 4,000 ไร่ เข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในยุโรปตะวันออก ในเดือนตุลาคม เพื่อเข้าถือหุ้น 90% ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ขนาด 14 เมกะวัตต์ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาในประเทศโปแลนด์ มีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2566 นับเป็นก้าวแรกของ BGRIM ในการเข้าลงทุนในยุโรปตะวันออก ด้วยเป้าหมายการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเพิ่มอีก 50-100 เมกะวัตต์ ในอนาคต

โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมบ่อทอง วินดฟาร์ม 1&2 กำลังการผลิตติดตั้ง 16 เมกะวัตต์ เริ่ม COD ตั้งแต่สิงหาคม

ในเดือนพฤศจิกายน B.Grimm Power Malaysia Sdn. Bhd. บริษัทย่อยซึ่ง BGRIM ถือหุ้น 100% ได้เข้าทำสัญญาเพื่อเข้าลงทุนใน reNIKOLA Holdings Sdn. Bhd. เพื่อถือหุ้น 40.6% เพื่อขยายพอร์ตพลังงานทดแทนในประเทศมาเลเซีย ปัจจุบันมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เปิดดำเนินการแล้ว 88 เมกะวัตต์ และมีโครงการตามแผนงานกว่า 500 เมกะวัตต์ ตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตสู่ 1 กิกะวัตต์ ในอนาคตยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คือ โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 5 โครงการ (ABP1, ABP2, BPLC1 และ BGPM 1&2) เพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าเดิม กำลังการผลิตติดตั้งรวม 700 เมกะวัตต์ มีกำหนดการ COD ในครึ่งปีหลังปี 2565

สำหรับการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมใหม่ อีก 2 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 280 เมกะวัตต์ BGPAT2 มีความคืบหน้าในการก่อสร้าง 14% ขณะที่ BGPAT3 เริ่มงานก่อสร้างแล้วในเดือนตุลาคม 2564 การก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าแบบผสมผสานอู่ตะเภา เฟสแรก มีความคืบหน้า 11.3% ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม สำหรับเฟส 2 คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2565