Last updated: 18 มิ.ย. 2567 | 368 จำนวนผู้เข้าชม |
GC จับมือ allnex ลุย HUB ปิโตร เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นายณะรงค์ศักดิ์ จิวากานันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (GC) เปิดเผยว่า จะสานภารกิจ 3 Step คือ Step Change, Step Out และ Step Up เพื่อรักษาฐานการผลิตให้แข็งแรง เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน สร้าง Synergy ปรับพอร์ตโฟลิโอ มุ่งสูงกลุ่มธุรกิจที่มีมูลค่าสูงและคาร์บอนต่ำ (High Value & Low Carbon) รุกธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ด้วย allex และ NatureWorks อีกทั้งสร้างโอกาสการเติบโตของมาบตาพุด และพัฒนา Strategic Partnership เพื่อตอบสนองเมกะเทรนด์ของอุตสาหกรรมแห่งอนาคตสู่การเป็น Hub ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมทำงานร่วมกับกลุ่ม ปตท. ในโครงการดักจับและกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ และต่อยอดเป็นธุรกิจแห่งอนาคต
โดยกลุ่มธุรกิจที่มีมูลค่าสูงและคาร์บอนต่ำ (High Value & Low Carbon) จะมุ่งเน้นการขยายตลาดและสร้างสรรค์เคมีภัณฑ์ผ่าน allnex ที่มีโรงงานและฐานธุรกิจสารเคลือบผิว (Coating Resins) อยู่ 34 แห่งทั่วโลก สำหรับการพัฒนาฐานการผลิต (Hub) ของ allnex ในทวีปต่าง ๆ นั้น allnex ประสบความสำเร็จในการพัฒนา China Hub จึงได้นำมาต่อยอดขยายฐานผลิตในกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพการเติบโต ได้แก่ โรงงาน Mahad รัฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดีย และโรงงานที่มาบตาพุด ประเทศไทย เพื่อเป็น Hub ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ในตลาดเคลือบผิวในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตสูง ได้แก่ ยานยนต์, อิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์, บรรจุภัณฑ์, โลหะอุตสาหกรรม. เฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งเคลือบผิวอาคารแบบพิเศษ
“โดยจะมีการปรับโครงสร้างธุรกิจให้สอดคล้องกับตลาดโลก เสริมสร้างความแข็งแกร่งของฐานการผลิตที่มาบตาพุด มีการเตรียมความพร้อมในการพูดคุยกับพันธมิตรทั้งรายเก่าและรายใหม่ ซึ่งพันธมิตรหลายรายมองประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศไทย ที่จะเข้ามาลงทุนตั้งฐานการผลิต ในภาวะที่ตลาดโลกมีความผันผวน โดย GC พร้อมที่จะเสนอรองรับการเติบโตในส่วนนี้ เนื่องจากมีความพร้อมในทุกด้าน ทั้งธุรกิจปิโตรเคมี, Specialty Product, Sustainability และ High Value & Low Carbon” นายณะรงค์ศํกดิ์ กล่าวเพิ่มเติม
ส่วนกลุ่มธุรกิจ Bio และ Green ซึ่ง NatureWorks ผู้ผลิตไบโอพลาสติกประเภทโพลิแลกติกแอซิด (PLA) ชั้นนำของโลก ใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตเม็ดพลาสติกชีวภาพชนิดย่อยสลายได้ สามารถนำไปใช้ในหลากหลายแอปพลิเคชัน เช่น แคปซูลกาแฟ ถุงชา และ วัสดุสำหรับการพิมพ์ 3 มิติ (3D Printing) ด้วยคุณสมบัติที่มีประสิทธิภาพเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและตอบโจทย์ความยั่งยืน ซึ่ง GC ถือหุ้น 50% ร่วมกับ Cargill อยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานผลิต PLA ครบวงจรแห่งใหม่ ที่นครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์ (Nakhonsawan Bio Complex – NBC) จังหวัดนครสวรรค์ มีกำหนดแล้วเสร็จในปลายปี 2568 ซึ่งจะเป็น Bio Complex แห่งแรกของประเทศไทย โดยใช้น้ำตาลจากอ้อยเป็นวัตถุดิบหลักเพื่อผลิต Lactic Acid ซึ่งนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต PLA มีกำลังการผลิต 75,000 ตันต่อปี ช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้าน Bio และ Green ของประเทศ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าทางการเกษตร และพัฒนาเศรษฐกิจในภาพรวม จะทำให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตและส่งออกเพื่อตอบสนองความต้องการวัสดุเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Material) สู่ตลาดโลก
GC ยังได้ร่วมมือกับกลุ่ม ปตท. ในโครงการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture and Storage: CCS) ทั้งในการศึกษาเรื่อง Carbon Capture Technology ผ่านการลงทุนใน Corporate Venture Capital (CVC) และการศึกษาโอกาสในการนำไฮโดรเจนคาร์บอนต่ำ (Blue/Green Hydrogen) ไปใช้และพัฒนาโมเดลธุรกิจเพื่อต่อยอดเป็นธุรกิจแห่งอนาคต
น.ส.ภัทรลดา สง่าแสง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี GC กล่าวถึงผลประกอบการในปีนี้ว่า คาดว่าในส่วนของ EBITDA จากการดำเนินงานจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน จากการที่อุสาหกรรมปิโตรเคมีเริ่มฟื้นตัว แต่คาดว่ารายได้ในภาพรวมจะไม่ดีเท่าปีก่อน เนื่องจากปีก่อนมีรายได้จากรายการพิเศษเข้ามา ในขณะที่ปีนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะมีรายได้จากรายการพิเศษเข้ามาหรือไม่
6 พ.ค. 2568
2 พ.ค. 2568
2 พ.ค. 2568
2 พ.ค. 2568