สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน

กกพ. ลดค่าไฟฟ้า พ.ค.-ส.ค.68 เหลือ 3.98 บาท/หน่วย

นายพูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ. มีมติเห็นชอบให้นำเงิน Claw Back ซึ่งเป็นเงินที่ กกพ. เรียกคืนมาจาก 3 การไฟฟ้า ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA ) ในส่วนที่ไม่ได้ใช้ลงทุนตามแผนที่เสนอให้ ประมาณ 12,200 ล้านบาท ให้ กกพ. นำไปลดค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) สำหรับงวดเดือน เดือน พฤษภาคม - สิงหาคม 2568 คิดเป็นประมาณ 17 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยของงวดนี้จะลดลงเหลือ 3.98 บาทต่อหน่วย ลดลงจากงวดเดือน มกราคม - เมษายน 2568 ซึ่งค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.15 บาทต่อหน่วย

“เงิน Claw Back นี้ สามารถนำมาใช้ได้ในกรณีที่เกิดวิกฤตเท่านั้น ซึ่งในขณะนี้เหตุผลที่สามารถนำมาใช้ได้คือ เศรษฐกิจชะลอตัว ประชาชนได้รับผลกระทบจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น จึงต้องมีการลดค่าไฟฟ้าเพื่อลดค่าครองชีพให้กับประชาชน” นายพูลพัฒน์ กล่าว

สำหรับเงิน Claw Back นี้ กกพ. ได้รับข้อมูลหลังจากที่มีการประกาศค่าไฟฟ้างวด พฤษภาคม - สิงหาคม 2568 ไปแล้ว และมีการตรวจพบว่าเงินในส่วนนี้ทั้งหมดรวมประมาณ 2 หมื่นล้านบาท แต่พิจารณาเห็นว่าไม่ควรนำมาใช้ทั้งหมดทีเดียว ควรจะเหลือเผื่อไว้สำรองหากเกิดกรณีฉุกเฉินขึ้นในอนาคต

นายพูลพัฒน์ กล่าวว่า ในงวดนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ยังได้รับคืนเงินต้นทุนคงค้างที่ กฟผ. รับภาระไว้แทนประชาชน เป็นเงินจำนวนประมาณ 14,000 - 15,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 20.33 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้เงินต้นทุนคงค้างของ กฟผ. ลดลงจากประมาณ 71,000 ล้านบาท เหลือ ประมาณ 57,150 ล้านบาท