บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน)

Last updated: 28 ส.ค. 2568  |  188 จำนวนผู้เข้าชม  | 

บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน)

BCPG ปลื้ม โครงการพลังงานลมมอนซูน เดินเครื่องเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการแล้ว
พร้อมส่งมอบพลังงานสะอาดข้ามพรมแดน เสริมความมั่นคงพลังงานอาเซียน

บีซีพีจีเผย โครงการมอนซูน (Monsoon Wind Power Project) ขนาดกำลังการผลิต 600 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date – COD) อย่างเป็นทางการแล้ว นับเป็นโครงการพลังงานลมแห่งแรกของ สปป.ลาว และ ของเอเชีย ที่สามารถส่งไฟฟ้าพลังงานสะอาดจาก สปป.ลาว เข้าสู่ระบบสายส่งของประเทศเวียดนามได้สำเร็จ

นายรวี บุญสินสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในฐานะที่บีซีพีจีเป็นผู้ลงทุน (สัดส่วนประมาณร้อยละ 48) ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม “มอนซูน” ขนาด 600 เมกะวัตต์ ที่แขวงเซกอง และแขวงอัตตะปือ ใน สปป. ลาว ว่า เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา โครงการพลังงานลมมอนซูน ประสบความสำเร็จในการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ โดยสามารถส่งกระแสไฟฟ้าจาก สปป.ลาว ไปยังการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) อย่างเป็นทางการ ความสำเร็จของโครงการมอนซูนในครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญของการพัฒนาพลังงานสะอาดในอาเซียน และสะท้อนวิสัยทัศน์ของ บีซีพีจี ที่มุ่งมั่นผลักดันพลังงานหมุนเวียนให้เติบโตในระดับภูมิภาค เราภูมิใจที่ได้ร่วมสนับสนุนโครงการมอนซูน และในวันนี้สามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์และส่งไฟฟ้าข้ามพรมแดนได้สำเร็จ ถือเป็นหมุดหมายประวัติศาสตร์ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมของภูมิภาคอาเซียน

“สำหรับ บีซีพีจี โครงการมอนซูน ถือเป็นการต่อยอดฟุตพริ้นท์ของเราในภูมิภาคอาเซียน หลังจากที่เรามีโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว ซึ่งเริ่มขายไฟฟ้าจากลาวไปยังเวียดนามได้สำเร็จตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน 2566 และอยู่ระหว่างการเข้าซื้อกิจการโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนามเพิ่มเติม นี่คือการยืนยันว่าบีซีพีจี ไม่ได้เพียงสร้างธุรกิจที่แข็งแรง แต่ยังสร้างคุณค่าให้แก่ชุมชน สิ่งแวดล้อม และมีส่วนสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนภูมิภาคไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำและอนาคตที่ยั่งยืน” นายรวีกล่าวเพิ่มเติม

ทั้งนี้ โครงการมอนซูนเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมบนบกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ติดตั้งกังหันลมจำนวน 133 ต้น ด้วยเงินลงทุนกว่า 950 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงินชั้นนำระดับโลก ไฟฟ้าที่ผลิตได้จะส่งผ่านสายส่งแรงสูงระยะทาง 27 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมต่อกับการไฟฟ้าเวียดนาม ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้านาน 25 ปี ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 32.5 ล้านตันตลอดอายุโครงการ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้