บริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)

Last updated: 29 ต.ค. 2568  |  158 จำนวนผู้เข้าชม  | 

บริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)

CV เร่งขายหุ้น M8H เอาเงินมาใช้หนี้

นายเศรษฐศิริ ศักดิ์สิทธิเสรีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CV ได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องความคืบหน้าในการเรียกคืนเงินล่วงหน้าเงินลงทุน โดยจะทำการรับจำนำหุ้นสามัญของ บริษัท Fernview Environmental Pty. Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งและ จดทะเบียนตามกฎหมายของประเทศออสเตรเลีย และประกอบกิจการโรงงานรับและฝังกลบขยะในประเทศออสเตรเลีย จำนวน 69,900 หุ้น จาก บริษัท เอ็มแปด โฮลดิ้ง จำกัด เสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2568

โดยบริษัทฯ จะดำเนินการเร่งรัดให้ บริษัท เอ็มแปด โฮลดิ้ง จำกัด (M8H) ทำการขายหุ้นดังกล่าว เพื่อนำเงินมาชำระคืนเงินล่วงหน้าเงินลงทุนให้แก่บริษัทฯ ต่อไป

และตามที่ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ บริษัทฯ จะจัดทำแผนการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อการเจรจากับเจ้าหนี้ของบริษัทฯ ต่อไป โดยจะเร่งดำเนินการเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ ประกอบด้วย 1. การรับจำนำหุ้น Fernview จาก M8H เพื่อเป็นหลักประกันการชำระหนี้ให้แก่บริษัทฯ ในระหว่างที่ M8H ยังไม่สามารถขายกิจการ Fernview ได้สำเร็จภายในเดือนตุลาคม 2568 และติดตามให้ M8H เร่งปิดการขายหุ้น Fernview เพื่อนำเงินมาชำระหนี้คืนให้แก่บริษัทฯ คาดว่าจะได้เงินคืนประมาณ 237 ล้านบาท (ไม่รวมดอกเบี้ยสะสม 15% ต่อปี) ภายในวันที่ 24 มีนาคม 2569
2. เร่งเปิดโรงไฟฟ้าให้ครบทุกแห่ง รายละเอียดโรงไฟฟ้าและสถานะปัจจุบัน ดังนี้ โรงไฟฟ้าชีวมวล จังหวัดแพร่ ภายใต้ CV กำลังการผลิต 9.4 เมกะวัตต์ กำลังการขายไฟฟ้าตามสัญญา 8 เมกะวัตต์ อายุคงเหลือ 10 ปี 4 เดือน อยู่ระหว่างรอการปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงิน และเตรียมความพร้อมของเครื่องจักรสำหรับการผลิต คาดว่าจะผลิตได้ภายในเดือนธันวาคม 2568
โรงไฟฟ้าชีวมวล จังหวัดพิษณุโลก ภายใต้ บริษัท โคลเวอร์ พิษณุโลก กำลังการผลิต 4.9 เมกะวัตต์ กำลังการขายไฟฟ้าตามสัญญา 4.5 เมกะวัตต์ อายุคงเหลือ 12 ปี 10 เดือน อยู่ระหว่างซ่อมแซมเครื่องจักรหลัก Turbine คาดว่าจะผลิตได้ภายในเดือนธันวาคม 2568
โรงไฟฟ้าขยะ จังหวัดพิจิตร ภายใต้ บริษัท โคลเวอร์ พิจิตร กำลังการผลิต 2 เมกะวัตต์ กำลังการขายไฟฟ้าตามสัญญา 1.88 เมกะวัตต์ อายุคงเหลือ 14 ปี 2 เดือน ดำเนินการได้ตามปกติ
โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม จังหวัดสระบุรี ภายใต้ บริษัท สยามแพลนเล็ท พาวเวอร์ กำลังการผลิต 7.36 เมกะวัตต์ กำลังการขายไฟฟ้าตามสัญญา 6.8 เมกะวัตต์ เป็นสัญญาต่อเนื่อง ดำเนินการได้ตามปกติ
3. ขายโรงไฟฟ้าบางแห่งเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ โดยวางแผนว่าจะขายให้แล้วเสร็จ และคาดว่าจะได้เงินสุทธิ (หลังหักชำระหนี้เจ้าหนี้จำนอง) ประมาณ 240 – 330 ล้านบาท ภายในวันที่ 24 มีนาคม 2569 ปัจจุบัน โรงไฟฟ้าบางแห่ง อยู่ระหว่างผู้ซื้อทำการตรวจสอบสถานะกิจการ (Due Diligence) และเจรจาข้อตกลงซื้อขาย และโรงไฟฟ้าบางแห่ง อยู่ระหว่างการติดต่อหาผู้ซื้อ
4. ขายทรัพย์สินที่ไม่ใช่ทรัพย์สินหลักของบริษัทฯ โดยวางแผนว่าจะขายให้แล้วเสร็จ และและคาดว่าจะได้เงินสุทธิ (หลังหักชำระหนี้เจ้าหนี้จำนอง) ประมาณ 100 – 160 ล้านบาท ภายในวันที่ 24 มีนาคม 2569 ปัจจุบันอยู่ระหว่างผู้ซื้อทำการตรวจสอบทรัพย์สิน (Due Diligence)
5. ขออนุมัติที่ประชุมผู้ถือหุ้นให้ออกหุ้นเพิ่มทุนต่อผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering) เป็นจำนวนเงินไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท โดยจะจัดการประชุมผู้ถือหุ้นและเรียกให้ชำระเงินเพิ่มทุนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มกราคม 2569 อย่างไรก็ตาม เรื่อง ดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนเตรียมการ เนื่องจากต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทก่อน เพื่อดำเนินการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นต่อไป
6. หาพันธมิตรทางธุรกิจที่สนใจเข้ามาลงทุนและเพิ่มทุนในบริษัทฯ (เฉพาะในกรณีที่ไม่สามารถเพิ่มทุนโดยเสนอขายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมได้ครบตามจำนวนเงินที่ต้องการ)
7. เริ่มดำเนินการฟ้องร้องคดีเพื่อติดตามทวงถามเงินลงทุนในการเข้าซื้อ บริษัท เวสท์เทค เอ็กซ์โพแนนเชียล จำกัด ปัจจุบันที่ปรึกษากฎหมายที่ได้รับการแต่งตั้งจากบริษัทฯ อยู่ระหว่างการจัดเตรียมเอกสารและเตรียมการฟ้องคดีผ่านขั้นตอนของ Singapore International Arbitration Centre (SIAC) รวมถึงการเตรียมชำระค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการฟ้องคดี โดยจะเร่งดำเนินการฟ้องคดีโดยเร็วภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2568

สำหรับการชำระหนี้คืนให้แก่หุ้นกู้ทั้งสามรุ่น บริษัท หลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ได้ยื่นฟ้องคดีต่อบริษัทฯ กรณีผิดนัดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้รุ่น CV257A ซึ่งส่งผลให้เกิดเหตุผิดนัดไขว้ (Cross-Default) ต่อหุ้นกู้รุ่น CV251A และ CV25NA เพื่อเรียกร้องให้บริษัทฯ ชำระคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยหุ้นกู้ทั้งสามรุ่น ดังต่อไปนี้
1. หุ้นกู้ของ CV ครั้งที่ 1/2565 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2568 โดยเลื่อนวันครบกำหนดไถ่ถอนครั้งที่ 1 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนดหุ้นกู้ โดยเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในภายหลัง หรือหุ้นกู้รุ่น CV251A จำนวน 451,800,000 บาท (ไม่รวมดอกเบี้ยค้างชำระและดอกเบี้ยผิดนัด)
2. หุ้นกู้ของ CV ครั้งที่ 1/2566 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2568 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอน หรือหุ้นกู้รุ่น CV257A จำนวน 300,300,000 บาท (ไม่รวมดอกเบี้ยค้างชำระและดอกเบี้ยผิดนัด)
3. หุ้นกู้ของ CV ครั้งที่ 2/2566 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2568 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอน หรือหุ้นกู้รุ่น CV25NA จำนวน 131,400,000 บาท (ไม่รวมดอกเบี้ยค้างชำระและดอกเบี้ยผิดนัด)

หากสามารถดำเนินการตามแนวทางทั้งหมดได้ บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถชำระหนี้หุ้นกู้ทั้ง 3 รุ่นเต็มจำนวนได้ภายในวันที่ 24 มีนาคม 2569 และหากบริษัทฯ สามารถดำเนินการรายการใดได้แล้วเสร็จก่อน ระยะเวลาที่กำหนดไว้ข้างต้น จะนำเงินที่ได้รับมาชำระดอกเบี้ยให้แก่หุ้นกู้ทั้ง 3 รุ่น และชำระคืนเงินต้นให้แก่หุ้นกู้แต่ละรุ่นเรียงตามลำดับการถึงกำหนดชำระเดิมต่อไปในทันที

สำหรับการรับความช่วยเหลือทางการเงินจากกรรมการและผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เป็นเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้นสำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็น ได้แก่ นายเศรษฐศิริ ศักดิ์สิทธิเสรีกุล คงเหลือวงเงินให้กู้ยืม 29,335,500 บาท มีต้นเงินกู้ค้างชำระ 42,650,109.54 บาท และดอกเบี้ยค้างชำระรวม 444,010.99 บาท และ นางนฤมล ศักดิ์สิทธิเสรีกุล ไม่มีวงเงินให้กู้ยืมคงเหลือ มีเงินต้นเงินกู้ค้างชำระ 5,253,508 บาท และดอกเบี้ยค้างชำระรวม 61,134.15 บาท โดยชำระดอกเบี้ยพร้อมกับการชำระคืนเงินต้น ซึ่งการกู้ยืมดังกล่าวไม่มีหลักประกัน และไม่มีข้อจำกัดในการกู้ยืมที่อาจกระทบสิทธิของผู้ถือหุ้น ทั้งนี้ การกู้ยืมเงินดังกล่าวมีลักษณะเป็นวงเงินหมุนเวียนระยะสั้น การชำระคืนขึ้นอยู่กับการบริหารเงินสดของบริษัทฯ บริษัทฯ จะดำเนินการชำระหนี้คืนให้แก่หุ้นกู้ทั้ง 3 รุ่น เพื่อให้ได้รับเงินคืนครบเต็มจำนวนก่อน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้