Last updated: 7 พ.ย. 2568 | 85 จำนวนผู้เข้าชม |
ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร ของ WHA Group ที่ ”A-” แนวโน้ม “Stable”
สะท้อนฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ร่วมขับเคลื่อนอนาคตที่ยั่งยืน ภายใต้พันธกิจ “WHA: WE SHAPE THE FUTURE”
ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของบมจ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น หรือ WHA Group (“บริษัทฯ”) ที่ระดับ “A-” แนวโน้ม “คงที่” ตอกย้ำฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน จากโครงสร้างรายได้ที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ใน 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มโลจิสติกส์ โมบิลิตี้ นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภคและพลังงาน และดิจิทัล
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ล่าสุด ทริสเรทติ้งได้ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทฯ ไว้ที่ระดับ “A-” แนวโน้ม “คงที่” ตอกย้ำฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และความสามารถในการก้าวข้ามทุกความท้าทาย นอกจากนี้ เครดิตองค์กรที่บริษัทฯ ได้รับยังแสดงถึงความเชื่อมั่นในวินัยทางการเงินของบริษัทฯ การบริหารสภาพคล่องและโครงสร้างทางการเงิน ที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนความสามารถในการปรับตัวและบริหารความเสี่ยงทางการเงินได้อย่างเหมาะสม ส่งผลให้บริษัทฯ คงไว้ซึ่งฐานะทางการเงินที่มั่นคง และยังสะท้อนถึงความสามารถของบริษัทฯ ในการเข้าถึง แหล่งเงินทุนจากทั้งตลาดทุนและสถาบันการเงิน เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจในปัจจุบันและตามแผนการเติบโตในอนาคตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์หลักและพัฒนาแนวทางธุรกิจให้สอดคล้องกับเมกะเทรนด์ของโลกอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงสนับสนุนจากกระแสการย้ายฐานการผลิตและการลงทุนมายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ มาประยุกต์ใช้ในทุกมิติของการดำเนินธุรกิจ ควบคู่กับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดย บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ “WHA: WE SHAPE THE FUTURE” เพื่อร่วมขับเคลื่อนอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับประเทศอย่างแท้จริง
ธุรกิจโลจิสติกส์ เติบโตอย่างโดดเด่นจากการขยายตัวของพื้นที่เช่าอย่างต่อเนื่อง สะท้อนความต้องการคลังสินค้าคุณภาพสูงที่เพิ่มสูงขึ้น และยังคงมุ่งขยายธุรกิจทั้งในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรุงเทพฯ ปริมณฑล สมุทรปราการ และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ส่วนในต่างประเทศมุ่งเน้นการขยายในประเทศเวียดนาม ให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจกับอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพการเติบโตในอนาคต
ธุรกิจโมบิลิตี้ ยังคงเดินหน้าสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าแบบ Built-to-Suit ครบวงจรทั้งบริการเช่ารถยนต์ไฟฟ้า (EV Rental Service) ซอฟต์แวร์โซลูชัน (Mobilix Software Solution) และสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Solutions) ภายใต้แบรนด์ Mobilix โดยมุ่งเน้นตอบโจทย์ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (Commercial EV) ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่ง จากความต้องการของภาคขนส่งที่มุ่งลดคาร์บอน (Decarbonize Transportation) ซึ่งจะเป็นโอกาสสำคัญต่อการเติบโตระยะยาว
ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม เป็นหัวใจสำคัญในการรองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต รวมทั้งการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยบริษัทฯ ยังคงตอกย้ำตำแหน่งการเป็นผู้นำด้านนิคมอุตสาหกรรม ในประเทศไทย ที่สามารถดึงดูดนักลงทุนที่สำคัญระดับโลกได้หลากหลายและต่อเนื่องในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า Data Center ผลิตภัณฑ์อิเล็คทรอนิคและเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพและความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัทฯ ในการผลักดันให้บริษัทชั้นนำ ในต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้นต่อเนื่อง สอดคล้องกับการขยายตัวของการลงทุนโดยตรง จากต่างประเทศ (FDI) ของประเทศไทยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมกับการมุ่งขยายธุรกิจในเวียดนาม ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
ธุรกิจสาธารณูปโภค มุ่งแสวงหาโอกาสการลงทุนในพื้นที่ใหม่ๆ นอกเหนือจากในนิคมอุตสาหกรรมของ WHA มุ่งเน้นขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์น้ำมูลค่าเพิ่ม (Value-added Water) อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า Data Center และขยายการลงทุนโรงผลิตน้ำและโรงบำบัดน้ำเสียแห่งใหม่ในเวียดนาม ตลอดจนพัฒนาโซลูชันใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนมากขึ้น
ธุรกิจไฟฟ้า ยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ทั้งภายในและภายนอกนิคมฯ ดับบลิวเอชเอทั้งในและต่างประเทศ ผ่านการพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันด้านพลังงานสะอาดใหม่ๆ รวมถึงการพัฒนาแพลตฟอร์ม RENEX ซื้อขายพลังงานสะอาดแบบ Peer-to-Peer และบริการใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (REC) เพื่อตอบโจทย์ความยั่งยืนของลูกค้า อีกทั้งพร้อมเตรียมรองรับความต้องการพลังงานสะอาด ในปริมาณมากของ Data Center
ธุรกิจดิจิทัล เพิ่มบทบาทสำคัญในการเสริมศักยภาพกลุ่มธุรกิจ ผ่านการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น AI และ IoT โดยมีโครงการ AI Transformation กว่า 12 โครงการ เช่น Drone Inspection Solution และ IoX Platform for Solar พร้อมพัฒนาแพลตฟอร์ม Mobilix Software Solution และแอปพลิเคชัน WHASApp โดยล่าสุดได้เพิ่มฟีเจอร์ CO2 ZERO สำหรับรายงานคาร์บอนฟุตพริ้นท์ตามมาตรฐาน
นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมแผนการขายทรัพย์สินของบริษัทฯ เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (กองทรัสต์ WHART) ภายในไตรมาส 4/2568 ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ตามแผนและเป้าหมายที่วางไว้
ขณะเดียวกันยังเดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปีพ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050) ผ่าน 5 ภารกิจหลักด้าน ESG ได้แก่ Green Mobility, Water Conservation, Decarbonization, Green Construction และ Waste Reduction by 3R ภายใต้แนวคิด “กรีนที่กินได้” ที่เชื่อว่าความยั่งยืนไม่ใช่ต้นทุน แต่คือการลงทุนเพื่ออนาคต โดยจากความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจของ WHA Group สะท้อนถึงความสำเร็จผ่านการการันตีโดยรางวัล อาทิ รางวัล S&P Global Sustainability Yearbook ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยได้รับคะแนนสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในการจัดอันดับความยั่งยืนของ S&P Global หรือ Top 1% S&P Global CSA Score ปี 2567 เป็นปีแรกในกลุ่มอุตสาหกรรมบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Management & Development) และยังได้รับ การคัดเลือกเข้าอยู่ในทำเนียบหุ้น ESG 100 ปี 2568 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 จากสถาบันไทยพัฒน์
แม้ว่าสถานการณ์ต่างๆจะเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ WHA Group สามารถพลิกวิกฤติเป็นโอกาส สร้างคุณค่าให้แก่นักลงทุน ลูกค้า และเศรษฐกิจไทย ความสำเร็จนี้สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการธุรกิจ และการนำนวัตกรรมมาพัฒนาโซลูชันครบวงจร เดินหน้าสู่อนาคตพร้อมกับเป้าหมายใหม่ ๆ ในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยและภูมิภาคอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ภายใต้พันธกิจ WHA: WE SHAPE THE FUTURE
7 พ.ย. 2568
7 พ.ย. 2568
7 พ.ย. 2568