GC ผลการดำเนินงานกำไรสุทธิ 40,069 ล้านบาท

Last updated: 26 เม.ย 2563  |  512 จำนวนผู้เข้าชม  | 

GC ผลการดำเนินงานกำไรสุทธิ 40,069 ล้านบาท

GC ประกาศผลการดำเนินงาน ปี 2561
กำไรสุทธิ 40,069 ล้านบาท สูงที่สุดในประวัติศาสตร์
จากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น กำไรจากธุรกิจใหม่ๆที่ร่วมลงทุนและ Project Max พร้อมเดินหน้าโครงการลงทุนในพื้นที่ EEC เต็มที่

 



นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ (CEO) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลประกอบการในปี 2561 ของบริษัทฯ มีผลการดำเนินการที่ดีขึ้นจากปีก่อนหน้า โดยมีรายได้จากการขาย 515,449 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 18 และมีกำไรจากการดำเนินการหลักไม่รวมผลของรายการที่ไม่ใช่การดำเนินงานปกติจำนวน 42,608 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 โดยมีปัจจัยหลักมาจากระดับราคาผลิตภัณฑ์เฉลี่ยที่ปรับเพิ่มขึ้นและปริมาณขายรวมที่เพิ่มขึ้น

ธุรกิจโอเลฟินส์ในช่วง 9 เดือนแรกของปีระดับราคาโพลีโอเลฟินส์อยู่ในระดับที่สูงต่อเนื่อง การฟื้นตัวของธุรกิจสายฟีนอล รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนซึ่งในปีนี้บริษัทฯ รับรู้ผลประกอบการของธุรกิจที่บริษัทฯ เข้าถือหุ้นจากการปรับโครงสร้างธุรกิจ (Asset injection) เต็มปี ประกอบกับสายธุรกิจอะคริโลไนไตรล์ (AN) ที่บริษัทฯ ต่อยอดจากการเข้าซื้อหุ้นในธุรกรรมดังกล่าวมีการฟื้นตัวอย่างมากในปีนี้ และการรับรู้ผลประโยชน์จากโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพทั่วทั้งองค์กร (MAX) แต่เมื่อรวมผลกระทบจากรายการอื่น ๆ อาทิ การขาดทุนมูลค่าของสินค้าคงคลังปรับลดลงจากผลของระดับราคาน้ำมันในช่วงปลายปีที่ลดลง และกำไรจากการซื้อกิจการในมูลค่าต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรม จำนวน 1,355 ล้านบาท ส่งผลให้ในปี 2561 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิรวม 40,069 ล้านบาท (8.89 บาท/หุ้น) ปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 2

ส่วนของผลประกอบการในไตรมาส 4/2561 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวม 128,874 เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/2560 ร้อยละ 9 แต่ลดลงจากไตรมาส 3/2561 ร้อยละ 6 โดยรายได้ที่ลดลงเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงและส่งผลให้ราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกัน และมีกำไรจากการดำเนินการหลักไม่รวมผลของรายการ ที่ไม่ใช่การดำเนินงานปกติจำนวน 9,076 ล้านบาท ปรับตัวลดลงร้อยละ 23 จากไตรมาส 3/2561 และร้อยละ 13 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สำหรับในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 4,060 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 4/2560 และไตรมาส ก่อนหน้าที่ร้อยละ 58 และ 68 ตามลำดับ ซึ่งผลกระทบหลักเกิดจากการขาดทุนของสินค้าคงคลังสุทธิ 6,524 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันดิบดูไบจากค่าเฉลี่ย 74.28 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลในไตรมาส 3/2561 มาอยู่ที่ 67.42 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในไตรมาส 4/2561

สรุปผลการดำเนินงาน ปี 2561
แนวโน้มสถานการณ์ตลาดปิโตรเลียมในปี 2561 มีความผันผวนสูง โดยช่วงต้นปีราคาได้ปรับตัวสูงขึ้นจากระดับราคาในปีก่อนหน้าจากการควบคุมกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560 ทำให้ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายปีลงสู่ระดับเฉลี่ยในเดือนธันวาคม 2561 อยู่ที่ 57 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ส่วนในปี 2562 คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 64-69 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
อัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงกลั่นในปี 2561 อยู่ที่ร้อยละ 102
ธุรกิจอะโรเมติกส์ มีอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ร้อยละ 93
ธุรกิจโอเลฟินส์และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องในปี 2561 มีอัตราการใช้กำลังการผลิตโอเลฟินส์อยู่ที่ร้อยละ 101 และอัตราการใช้กำลังการผลิตโพลีเอทีลีนอยู่ที่ร้อยละ 100 โดยราคาเม็ดพลาสติก HDPE เฉลี่ยอยู่ที่ 1,330 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 14

ทิศทางการดำเนินงานในปี 2562 บริษัทฯ ดำเนินงานผ่านกลยุทธ์สำคัญ คือ
สร้างความแข็งแกร่งภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง (Strengthen production home base)
Efficiency enhancement Project Max ทำได้ตามเป้าหมาย 10,800 ล้านบาท และจะเดินหน้าต่อไป การเริ่มโครงการ Digitalization phase เพื่อนำระบบ AI เข้ามาสนับสนุนกระบวนการทำงานให้ดียิ่งขึ้นและจะเป็นโครงการต่อเนื่องไปในอนาคต
Market Strategy & Intelligence ศูนย์ CSC สนับสนุนกลยุทธ์การตลาด สร้างการเติบโตไปด้วยกันกับลูกค้า
Expand market portfolio in high growth region ร่วมลงทุนในเมียนมาร์กับพันธมิตร ตั้งสำนักงานขายในเมียนมาร์และเวียดนาม ปี 2561 มีปริมาณการขายเม็ดพลาสติกโพลิเอทิลีนในกลุ่มประเทศ CLMV จำนวน 250,000 ตันต่อปี
เดินหน้ากลยุทธ์ตามแผนระยะยาว (Long term strategic execution)
ปี 2561 ที่ผ่านมา GC เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการลงทุนในกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ อย่างเต็มที่ เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยเป็นการลงทุนเพื่อต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ รวมถึงมุ่งเน้นการลงทุนไปยังผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติเฉพาะทางและมีสมรรถนะสูง (Performance Chemicals) โดยในปัจจุบันโครงการสำคัญหลายโครงการที่ได้รับการอนุมัติการลงทุนในช่วงที่ผ่านมาอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง
1) โครงการ Olefins Reconfiguration เป็นการขยายกำลังการผลิตผ่านการลงทุนใน Naftha Cracker ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับวัตถุดิบที่บริษัทฯมีอยู่แล้วและเป็นการต่อยอดธุรกิจปลายน้ำในอนาคตด้วยกำลังการผลิต เอทิลีน 500,000 ตันและ โพรพีลีน 250,000 ตัน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2563
2) โครงการ Propylene Oxide (PO) โครงการ Polyols ซึ่งเป็นการต่อยอดผลิตภัณฑ์โพรพีลีนไปสู่ผลิตภัณฑ์ปลายทางสาย Polyurethane ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2563
3) โครงการผลิตผลิตภัณฑ์วิศวกรรมชั้นสูง PA9T และ HSBC เป็นความร่วมมือกับนักลงทุนจากญี่ปุ่น จัดตั้งบริษัท คุราเร่ จีซี แอดวานซ์ แมททีเรียลส์ จำกัด เพื่อร่วมลงทุนในธุรกิจเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ ดำเนินการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกวิศวกรรมชั้นสูง ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่จะผลักดันให้เกิดการเติบโตในอนาคต โครงการเหล่านี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างและดำเนินการตามแผนที่วางเอาไว้ คาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2565
4) บริษัทฯ เข้าถือหุ้นในบริษัท Siam Mitsui PTA Co., Ltd. (SMPC, เปลี่ยนชื่อเป็น GCM-PTA) และ Thai PET Resin Co., Ltd. (TPRC) ซึ่งดำเนินธุรกิจ PTA กำลังการผลิต 970,000 ตันต่อปี และ PET กำลังการผลิต 147,000 ตันต่อปี เพื่อต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ พาราไซลีน (PX) และ โมโนเอทิลีนไกลคอล (MEG) ตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มขวดบรรจุภัณฑ์อย่างครบวงจร ประกอบกับเป็นช่วงขาขึ้นในธุรกิจ PTA ทำให้บริษัทฯ สามารถบริหารจัดการกำไรได้ดียิ่งขึ้น

การดำเนินงานตามแนวทาง Circular Living
ในปี 2561 ที่ผ่านมา GC มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจโดยยึดหลัก Circular Economy ประยุกต์ใช้ทั้งภายในและภายนอกองค์กร พร้อมสร้างความตระหนักรู้ มุ่งหวังไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าและเป้าหมายสร้างให้ GC เป็นต้นแบบองค์กรแห่งความยั่งยืนอย่างแท้จริง
Waste Management การใช้วัตถุดิบอย่างรับผิดชอบและมีประสิทธิภาพสูงสุดตามหลัก 5Rs (Reduce, Reuse, Recycle, Renewable และ Refuse)
Recycling Plant อยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนโรงงานรีไซเคิลพลาสติก (Recycling Plant) ครบวงจรมาตรฐานสากลในระดับโลก บริเวณพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม จังหวัดระยอง กำลังการผลิต rPet 30,000 ตันต่อปี rHDPE 15,000 ตันต่อปี ขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสม การแสวงหาพันธมิตรร่วมลงทุน รวมทั้งการจัดหาวัตถุดิบ (Waste Collection) ที่เหมาะสม คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปี 2562 นี้
โครงการลดปริมาณของเสียไปฝังกลบให้เป็นศูนย์ ด้วยการลดปริมาณการเกิดของเสีย และเปลี่ยนวิธีกำจัดของเสียจากวิธีฝังกลบเป็นวิธีอื่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เป้าหมายที่จะลดปริมาณการใช้พลาสติกชนิดใช้แล้วทิ้ง (Single Used Plastic) เช่น ถุงช็อปปิ้ง จำนวน 150,000 ตันต่อปี ให้เหลือ 0 ตันต่อปี ภายใน 5 ปี
การมุ่งสู่ตลาดไบโอพลาสติก ในการผลิต Packaging รูปแบบต่าง ๆ

แผนการดำเนินงาน BioPlastic
GC มีแผนจะผลิตผลิตภัณฑ์ไบโอพลาสติก ชนิด PBS เพื่อนำมาใช้ทดแทนถุงพลาสติกใช้แล้วทิ้งเพิ่มขึ้น (Single Used Plastic) และใช้ในผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่มเพิ่มขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์ย่อยสลายอย่างรวดเร็ว เช่น แก้วกาแฟ นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างเจรจากับบริษัทฯ สินค้าอาหารชั้นนำของโลก ด้านบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการใช้ BioPBS เพิ่มขึ้น โดยกระแสการเลิกใช้ถุงพลาสติก รวมถึงการสร้างตลาดการใช้ไบโอพลาสติก จะทำให้การผลิต BioPBS ขึ้นไปสู่ที่ระดับ 20,000 ตันต่อปี ได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้