Last updated: 26 เม.ย 2563 | 618 จำนวนผู้เข้าชม |
เอ็กโก กรุ๊ป ลงทุนปีนี้ 30,300 ล้านบาท
นายจักษ์กริช พิบูลย์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า ในปีนี้มีแผนจะใช้เงินลงทุนรวม 30,300 ล้านบาท โดยในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ มีการใช้เงินลงทุนไปแล้ว 26,400 ล้านบาท ประกอบด้ยการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 3 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ ไซยะบุรี เงินลงทุน 900 ล้านบาท และโรงไฟฟ้าพลังงาน น้ำเทิน 1 เงินลงทุน 2,400 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 โรง อยู่ใน สปป.ลาว และโรงไฟฟ้าถ่านหิน ซานบัวนาเวนทูรา ในประเทศฟิลิปปินส์ เงินลงทุน 4,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังใช้เงินลงทุน 23,000 ล้านบาท ในการซื้อหุ้น 49% ใน พาจู เอ็นเนอร์ยี่ เซอร์วิส ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วตั้งแต่เดือนมกราคม 2562 ที่ผ่านมา โดยภายใต้พาจู เอ็นเนอร์ยี่ มีโครงการโรงไฟฟ้าพาจู และโครงการโรงไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง กังดง
โดยโรงไฟฟ้า ไซยะบุรี มีกำลังการผลิต 1,220 เมกะวัตต์ เอ็กโก ถือหุ้น 12.5% และโรงไฟฟ้าถ่านหิน ซานบัวนาเวนทูรา มีกำลังการผลิต 455 เมกะวัตต์ เอ็กโก ถือหุ้น 49% ซึ่งทั้งสองโรงมีกำหนดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ในไตรมาส 4 ปี 2562 ส่วนโรงไฟฟ้า น้ำเทิน 1 มีกำลังการผลิต 514.30 เมกะวัตต์ เอ็กโก ถือหุ้น 25% คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 2 ปี 2565 และโรงไฟฟ้า กังดง เป็นโรงไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง มีกำลังการผลิต 19.8 เมกะวัตต์ เริ่มก่อสร้างในเดือนสิงหาคม 2562 คาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4 ปี 2563 โดยโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 4 โครงการ กำลังการผลิต 554 เมกะวัตต์
สำหรับทิศทางการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2562 จะแสวงหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล และพลังงานหมุนเวียน และโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงใหม่ เช่น เซลล์เชื้อเพลิง นอกจากนี้ ยังแสวงหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก เช่น ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และนิคมอุตสาหกรรม รวมทั้งธุรกิจใหม่ที่เอ็กโกยังไม่เคยทำมาก่อน เช่น ธุรกิจ S Curve โดยเน้นการลงทุนในประเทศที่มีฐานการลงทุนอยู่แล้ว เช่น ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ และประเทศใหม่ๆ ที่มีโอกาส เช่น ไต้หวัน
ปัจจุบันเอ็กโกมีโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว อยู่ใน 6 ประเทศ รวม 27 โรงไฟฟ้า กำลังการผลิตรวม 5,147 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นการลงทุนในประเทศ 60.83% และการลงทุนในต่างประเทศ 39.17% และมีสัดส่วนของพลังงานหมุนเวียน 16.96% ซึ่งมีแผนที่จะเพิ่มให้เป็น 30% ภายใน 10 ปีจากนี้
สำหรับไตรมาส 3 นี้ จะมีการเซ็นสัญญาร่วมทุนในโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศ อีก 1 โครงการ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้
นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่อยู่ในแผนการดำเนินงาน คือ โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน กวางจิ ในประเทศเวียดนาม ที่จะลงทุนร่วมกับ บริษัท กฟผ.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (EGATi) มีกำลังการผลิต 1,220 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ปลายปีหน้า ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 4 ปี แล้วเสร็จในปี 2567 ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาเงินกู้ในโครงการ และเจรจาสัญญาซื้อขายไฟฟ้า คาดว่าจะเซ็นสัญญาได้ภายในปลายปีหน้า สำหรับโครงการนี้ใช้เงินลงทุนประมาณ 2,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเอ็กโก ถือหุ้น 30%
ส่วนในไต้หวันอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนโดยร่วมกับพันธมิตร จะเข้าไปแข่งขันใน 2 โครงการที่มีการประกาศเปิดประมูล คาดว่าจะรู้ผลภายในปลายปีนี้
ส่วนธุรกิจ LNG ก็จะดูโอกาสการลงทุนร่วมกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการทำ Trader ในภูมิภาคนี้ โดยอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตร
เอ็กโก ยังมีแผนที่จะทำ นิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง ซึ่งใช้พื้นที่เดิมของโรงไฟฟ้าระยอง ประมาณ 500 ไร่ ที่หมดอายุไปแล้ว มาจัดทำนิคมฯ เพื่อรองรับการเติบโตในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และการประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อร่างข้อเสนอโครงการจัดตั้งนิคมฯ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา โดยจะพัฒนาเป็นนิคมฯ ในลักษณะ Smart Industrial Estate
นายจักรกริช กล่าวถึง ผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2562 มีกําไรจากการดำเนินงานปกติ ก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี และการรับรู้รายได้แบบสัญญาเช่า จำนวน 5,509 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน จำนวน 1,045 ล้านบาท หรือคิดเป็น 23% ส่วนไตรมาส 2 ปี 2562 มีกําไรจากการดำเนินงาน ก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี และการรับรู้รายได้แบบสัญญาเช่า จำนวน 2,594 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 106 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4%
15 ต.ค. 2567
16 ต.ค. 2567
15 ต.ค. 2567
16 ต.ค. 2567