Last updated: 26 เม.ย 2563 | 703 จำนวนผู้เข้าชม |
กระทรวงพลังงานเตรียมผลักดันให้เกิดโรงไฟฟ้าชุมชน 250 แห่ง
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในวันนี้ (9 ตุลาคม 2562) กระทรวงพลังงาน โดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการ ได้ร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็น การพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ที่จะนำไปสู่การจัดทำกรอบการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนผ่านกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และกองทุนพัฒนาโรงไฟฟ้า ตามนโยบายของกระทรวงพลังงาน
โดยมีเป้าหมายที่จะเกิดโรงไฟฟ้าชุมชน จำนวน 250 แห่ง และในจำนวนนี้จะมีโรงไฟฟ้าชุมชนที่เป็น Quick Win จำนวน 10-20 แห่ง เพื่อนำร่องให้เกิดโรงไฟฟ้าชุมชนให้ได้ตามแผนภายในปีหน้า ซึ่งโรงไฟฟ้าชุมชน Quick Win จะคัดเลือกจากชุมชนที่มีความพร้อมในด้านวัตถุดิบที่จะนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า เข้าร่วมลงทุนกับภาครัฐ และเอกชน และต้องมีสายส่งไฟฟ้ารองรับการขายไฟฟ้าเข้าระบบให้เกิดขึ้นก่อน เพื่อเป็นการนำร่องในการเกิดโรงไฟฟ้าชุมชนทั่วประเทศ โดยโครงการ Quick Win ที่จะเกิดขึ้นจะเป็นตัวบอกว่ามีปัญหาและอุปสรรคใดในการดำเนินงานหรือไม่ และจะทำให้โรงไฟฟ้าชุมชนที่จะเกิดตามมาจะต้องปรับตัวและแก้ไขอย่างไร เพื่อให้เกิดความยั่งยืนและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าชุมชนเน้นให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้า โดยการผลิต ใช้ และจัดจำหน่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญต่อการเสริมสร้างความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในประเทศและเพิ่มรายได้เข้าสู่ชุมชนตามแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ไม่ว่าจะเป็นการประกันรายได้จากการปลูกพืชพลังงาน การเข้าไปถือหุ้นในประกอบการกิจการโรงไฟฟ้า รวมถึงผลประโยชน์ของชุมชนที่จะได้รับรายได้จากการขายไฟฟ้า
สำหรับกรอบนโยบายการพัฒนาโรงไฟฟ้าชุมชน จะมีการกำหนดพื้นที่เป้าหมายที่ตั้งโรงไฟฟ้า ซึ่งต้องเป็นพื้นที่มีศักยภาพด้านพลังงานหมุนเวียน โดยแนวทางการจัดตั้งโรงไฟฟ้าดังกล่าว จะเป็นการร่วมลงทุนระหว่าง เอกชนและชุมชน ซึ่งมีเงื่อนไขที่ให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนในการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ และเปิดให้ชุมชนเข้ามาถือหุ้นในสัดส่วนที่เหมาะสมในขั้นตอนของการดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์
โดยมีเป้าหมายการจัดตั้งโรงไฟฟ้าชุมชน เป็นการส่งเสริมให้เกิดการใช้พลังงานหมุนเวียน ตามแผนการพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) ซึ่งได้กำหนดประเภทเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ที่มีศักยภาพ 7 ประเภท เช่น ชีวมวล ที่จะมาจากฟางข้าว ซังข้าวโพด หญ้าเนเปียร์ ก๊าซชีวภาพ พลังงานแสงอาทิตย์ หรือพลังงานผสมผสาน ด้วยกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าที่สอดคล้องกับความต้องการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ โดยมีสัญญาการรับซื้อไฟฟ้าจากการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และราคาซื้อขายไฟฟ้าต้องกระทบกับค่าไฟฟ้าให้น้อยที่สุด
ซึ่งมีข้อเสนอจากเวทีการประชุมในเรื่องของการกำหนดสัดส่วนการถือหุ้นของชุมชนที่จะร่วมกับภาคเอกชนไว้ระหว่าง 10-30% โดยให้ชุมชนเข้ามาถือหุ้นบุริมสิทธิ์เริ่มต้นที่ 10% หลังจากโครงการมีกำไรก็ให้นำกำไรมาซื้อหุ้นสามัญของโรงไฟฟ้าได้ 20% และยังมีข้อเสนอว่าควรให้การสนับสนุนค่าไฟฟ้าในอัตรา 25 สตางค์/หน่วย ให้กับชุมชนที่เข้าร่วมในการใช้ไฟฟ้า
“ผลจากการระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนในครั้งนี้ กระทรวงพลังงาน จะนำข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็น ไปประกอบการพิจารณารูปแบบการพัฒนาโครงการที่เหมาะสม เพื่อเป็นแนวทางในการเปิดรับภาคเอกชนที่สนใจเข้าร่วมลงทุนกับชุมชนในการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน โดยกรอบดังกล่าวจะนำเสนอสู่การพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)” นายสนธิรัตน์ กล่าว
5 ก.พ. 2568
7 ก.พ. 2568
7 ก.พ. 2568