Last updated: 26 เม.ย 2563 | 825 จำนวนผู้เข้าชม |
ช่วงนี้ข่าวเรื่องเกี่ยวกับแอลกอฮอล์กำลังถูกติดตามจากคนหมู่มาก เนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยม ขาดตลาดและมีราคาแพง หลายหน่วยงาน และหลายองค์กร จึงร่วมด้วยช่วยกันในการนำแอลกอฮอล์ที่มีอยู่ในระบบส่วนเกินมาผลิตเพิ่มขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องที่ดี แต่กลับมีหลายคนที่อาจจะยังไม่เข้าใจข้อเท็จจริงทั้งหมด และนำเสนอเพียงมุมเดียวไม่สะท้อนมิติทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน ตามที่เห็นในโซเชี่ยลมีเดียต่างๆ
เริ่มจากเรื่องที่เสนอให้ยกเลิกการผสมแอลกอฮอล์ในน้ำมันแก๊สโซฮอล์ แล้วนำมาผลิตแอลกอฮอล์กำจัดไวรัสโควิด-19 แล้วยังระบุว่าแนวคิดของกระทรวงพลังงานที่จะยกเลิก E10 เปลี่ยนเป็น E20 น่าจะเป็นแนวคิดที่ผิด และควรสั่งยกเลิกไปเลย ซึ่งในความเป็นจริง ไม่จำเป็นต้องยกเลิกการผสมแอลกอฮอล์ในน้ำมันในแก๊สโซฮอล์ เพราะกระทรวงพลังงานมีข้อมูลว่าเอทานอล หรือเอทิลแอลกอฮอล์ ที่ใช้ในด้านพลังงานมีปริมาณเหลือเฟือ สามารถนำมาผลิตได้โดยต้องมีการปรับข้อกฎหมายให้สามารถนำเอทิลแอลกอฮอล์มาใช้ในทางการแพทย์ได้ ซึ่งกระทรวงก็ดำเนินการตามขั้นตอนทุกอย่างแล้ว หลายวันมานี้ก็มีข่าวให้เห็นกันอยู่ว่ามีการส่งมอบแอลกอฮอล์ให้หน่วยงานสาธารณสุขนำไปใช้ประโยชน์มากมาย ไม่ได้กระทบกับแก๊สโซฮอล์เลย
ส่วนที่บอกว่ายกเลิก E10 เปลี่ยนเป็น E20 เป็นนโยบายที่ผิดทาง ก็ไม่น่าจะถูกต้องนัก เพราะนโยบายด้านพลังงานจะปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ซึ่งในอดีตที่น้ำมันแพงมาก รัฐต้องการลดการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป ก็มีการเอาเอทานอลมาผสมเป็นแก๊สโซฮอล์ ที่ช่วยทั้งภาคพลังงานและภาคเกษตรกรรมผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจอย่างอ้อยและมันสำปะหลังที่นำเอามาป้อนโรงงานเอทานอลด้วย
ประเด็นการใช้น้ำมันทั้งโลกที่ลดลงและมีแนวโน้มที่ราคาจะต่ำอีกนาน คงต้องจับตาดูให้ดี เพราะ 2-3 วันนี้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และพันธมิตร อย่างรัสเซีย จะมีการหารือกันอีกรอบ นอกจากนี้ ทางสหรัฐอเมริกาก็ได้มีการหารือกับซาอุดิอาระเบียให้หยุดยั้งสงครามราคา ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกก็ดีดตัวขึ้นทันที และมีแนวโน้มว่าหากตกลงกันได้ราคาน้ำมันดิบก็อาจจะเพิ่มสูงขึ้นได้ เมื่อนั้นราคาน้ำมันสำเร็จรูปก็คงจะลดต่ำอย่างปัจจุบันไม่ได้แน่ๆ
ประเด็นการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมัน โครงสร้างราคาน้ำมันมีภาษีหลายตัว และยังมีการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และกองทุนเพื่อการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ที่จะนำเงินที่ได้ไปใช้ดูแลเสถียรภาพราคาน้ำมัน เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นรายได้ของงบประมาณแผ่นดิน หากมีการลดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันลดลง ก็ต้องไปหาเพิ่มรายได้จากส่วนอื่นมาทดแทน เพื่อให้งบประมาณแผ่นดินเกิดสมดุลมากที่สุด
ประเด็นเรื่องการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าชุมชนในราคาสูงกว่าราคารับซื้อไฟฟ้าปกติ จะเป็นการเพิ่มภาระค่าไฟฟ้าแก่ประชาชนในอนาคต ตรงนี้ต้องเอาข้อมูลมาดูทั้งเรื่องราคาและผลประโยชน์ที่ชุมชนจะได้รับด้วย ต้องพูดกันที่วัตถุประสงค์หลักของโครงการที่ต้องการเอาภาคพลังงานมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนให้เข้มแข็ง เพราะโครงการนี้ชุมชนจะมีรายได้จากการเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าชุมชน และลดภาระค่าใช้จ่ายของชุมชน ชาวบ้านมีรายได้จากการจำหน่ายวัสดุทางการเกษตรเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าที่มีสัญญาแน่นอน เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างความเข้มแข็งในชุมชน ลดการย้ายถิ่นฐานของแรงงาน กระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยในพื้นที่ ก่อให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจในชุมชน และชุมชนสามารถนำไฟฟ้าที่ผลิตได้มาสร้างมูลค่าเพิ่มในการประกอบอาชีพของชุมชนได้ด้วย เช่น ห้องเย็น เครื่องจักรแปรรูปการเกษตร เป็นต้น
ส่วนประเด็นที่ว่าจะผุดโรงไฟฟ้านอกแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี) ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่ระบุว่าในโครงการอีอีซี จะมีการอนุญาตให้ผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีกนอกแผนพีดีพี โดยอ้างเอกสิทธิ์ของคณะกรรมการอีอีซี เรื่องนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะให้ใครหรือบริษัทเอกชนใดอยากตั้งโรงไฟฟ้าแล้วตั้งได้เลย ขั้นตอนกระบวนการกฎหมายมีกรอบชัดเจน การตั้งโรงไฟฟ้าหรือเรื่องกำลังการผลิตไฟฟ้าในประเทศไทย มีแผนกำหนดชัดภายใต้กรอบของแผนพีดีพี ที่ฉบับปัจจุบันก็ลงรายละเอียดไว้ถี่ยิบ ทั้งกำลังการผลิต สัดส่วนประเภทเชื้อเพลิง แม้แต่การแยกย่อยไปตามภูมิภาคต่างๆ ถ้าจะมาบอกลอยๆ ว่ามีใครคณะกรรมการใดคณะหนึ่งอยากตั้งโรงไฟฟ้าแล้วจะตั้งเองได้เลย ไม่มีทาง
16 ต.ค. 2567
15 ต.ค. 2567
15 ต.ค. 2567
16 ต.ค. 2567