Last updated: 2 ก.พ. 2564 | 909 จำนวนผู้เข้าชม |
Banpu Transformation เร่งสปีดพอร์ตพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ (Banpu Transformation) เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในฐานะผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ (International Versatile Energy Provider) โดยใช้กลยุทธ์ Greener & Smarter และเพิ่มกลยุทธ์ Faster มาเร่งความเร็วในการเพิ่มสัดส่วนของพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อมในพอร์ตโฟลิโอ (Greener Portfolio)
นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเปลี่ยนผ่านของ Banpu Transformation เริ่มเข้มข้นมากขึ้นเมื่อ 4-5 ปี ที่สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ตอกย้ำการเกิดยุค Never Normal ที่โลกจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป และมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงต้องเรียนรู้และปรับตัว พร้อมเปลี่ยนองค์กรให้ก้าวสู่เป้าหมายของความยั่งยืนทางธุรกิจ โดย Banpu Transformation ให้ความสำคัญกับ 2 เรื่องหลักคือ การเพิ่มสัดส่วนพอร์ตโฟลิโอพลังงานที่สะอาดและฉลาดให้มากขึ้น ผ่านบริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด และการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) ซึ่งได้ทำอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาเกือบ 3 ปีผ่านหน่วยงาน Digital Center of Excellence (DCOE) เพื่อให้บ้านปูพร้อมแข่งขันในฐานะผู้นำธุรกิจด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ ด้วยความพร้อมทั้งด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ (supply chain) ของการส่งมอบอนาคตพลังงานที่ยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บ้านปูมี บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด เป็นเรือธงในการสร้างและขับเคลื่อนพอร์ตพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีพลังงาน และพัฒนาโซลูชันด้านพลังงานเพื่อตอบเทรนด์พลังงานยุคใหม่ ปัจจุบันกำลังการผลิตตามสัดส่วนการลงทุนของบ้านปู เน็กซ์ มีอยู่ทั้งหมด 694 เมกะวัตต์ นับเป็น 22.4% ของกำลังการผลิตพลังงานรวมของบ้านปูทั้งหมดที่ 3,097 เมกะวัตต์ และยังคงเดินหน้าเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังผลิตพลังงานสะอาดให้ถึง 1,600 เมกะวัตต์ จากกำลังการผลิตพลังงานรวม 6,100 เมกะวัตต์ ภายในอีก 4 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ บ้านปูยังมีพอร์ตก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นพลังงานที่เชื่อมโยงไปสู่พลังงานที่สะอาดขึ้น (Bridging Energy) ที่มีกำลังการผลิตประมาณ 600-700 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันเทียบเท่าก๊าซธรรมชาติ
ในรอบปีที่ผ่านมา บ้านปู เน็กซ์ ใช้กลยุทธ์ทางการตลาดด้วยการสร้างความแตกต่างในการเป็นผู้ให้บริการด้านพลังงานสะอาดที่ฉลาดขึ้นอย่างครบวงจร ด้วย 5 โซลูชันพลังงานฉลาด (Smart Energy Solutions) ประกอบด้วย ฉลาดวิเคราะห์ พัฒนาโปรแกรมที่สามารถติดตามและวิเคราะห์พฤติกรรม รูปแบบ และช่วงเวลาการใช้พลังงานสำหรับกลุ่มโรงงาน ฉลาดผลิต พัฒนา Smart Energy Application ให้แก่ลูกค้าที่ติดตั้ง Solar rooftop เพื่อใช้งาน เป็นบริการหลังการขาย รวมไปถึงโครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนทุ่นลอยน้ำ หรือโซลาร์ลอยน้ำ ฉลาดเก็บ บ้านปู เน็กซ์ e-PromptMove ซึ่งเป็นต้นแบบชุดผลิตและกักเก็บไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในรูปแบบรถเทรลเลอร์รายแรกของไทย ฉลาดใช้ บริการยานยนต์ไฟฟ้า อย่าง Muvmi และ บ้านปู เน็กซ์ อีวี คาร์แชริ่ง ที่เติมเต็มการเดินทางให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยบริการรับ-คืนรถแบบไร้สัมผัส และฉลาดหมุนเวียน ลงทุนใน Gepp Sa-ard ผู้ให้บริการด้านข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการขยะ
สำหรับการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดิจิทัลของบ้านปู (Digital Transformation) บริษัทฯ ได้จัดตั้ง DCOE ในปี 2561 เพื่อเป็นหน่วยงานเรือธงในการนำบ้านปูสู่การปรับเปลี่ยนวิธีทำงานให้ตอบรับโลกยุคใหม่ ตั้งแต่การวางยุทธศาสตร์ ไปจนถึงการทำงานในทุกขั้นตอน ที่สามารถนำเทคโนโลยีและแนวคิดแบบดิจิทัลเข้าไปเสริมประสิทธิภาพได้ รวมไปถึงนำนวัตกรรมต่าง ๆ ไปช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ให้กับลูกค้าทั้งแบบ B2B, B2C และ B2G ได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งการร่วมมือกับหน่วยงานทรัพยากรมนุษย์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ ในการวางแผนและขยายผลกระบวนการในการพัฒนาทักษะให้พนักงาน ทั้งการสร้างทักษะใหม่ที่จำเป็น และการยกระดับทักษะเดิมให้ดีขึ้น
ปัจจุบันความสำเร็จของขั้นตอน Digital Transformation เห็นเป็นรูปธรรมแล้วใน 4 ประเทศนำร่อง ได้แก่ ประเทศไทย ออสเตรเลีย จีน และอินโดนีเซีย ซึ่งในประเทศเหล่านี้มีหน่วยงาน Digital Capability Centers ตั้งอยู่ที่สำนักงานในประเทศนั้น ๆ และมีทีมงานทำงานร่วมกับ DCOE ที่สำนักงานใหญ่ในประเทศไทย โดยได้ขับเคลื่อนกระบวนการ Digital Transformation ที่เหมาะกับบริบทของธุรกิจในแต่ละประเทศ ตั้งแต่ขั้นตอนการสร้างสรรค์ไอเดีย พัฒนา และร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีนั้น ๆ จากเครือข่ายเทคโนโลยีของบ้านปู โดยมีดิจิทัลโปรดักส์ กว่า 82 เคสและยังคงพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ นอกจากกลยุทธ์ Greener & Smarter แล้ว บ้านปูยังได้เพิ่มกลยุทธ์ Faster เข้ามาด้วย เพื่อเร่งการยกระดับขีดความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถสร้างความยั่งยืน (Environment, Social and Governance Principles : ESG) ให้กับทั้งธุรกิจ ความยั่งยืนด้านพลังงาน และความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม และสังคม ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ควบคู่กับการบริหารจัดการอย่างมีธรรมาภิบาล พร้อมทั้งเน้นการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจให้มีความครบวงจรมากที่สุด โดยทำงานร่วมกับพันธมิตรคู่ค้าและสตารท์อัพด้านเทคโนโลยีพลังงาน
นางสมฤดี กล่าวว่า บ้านปูยังได้ลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติที่สหรัฐอเมริกา โดบลงทุนกว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในแหล่งก๊าซฯ ที่บริเวณมาเซลัส ปัจจุบันมีกำลังการผลิตก๊าซฯ ประมาณ 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งการที่นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกา มีนโยบายการส่งเสริมพลังงานสะอาด แต่ไม่ส่งผลโดยตรงต่อการผลิตก๊าซฯ จากแหล่ง แต่จะส่งผลดีต่อโครงการต่อเนื่องจากการใช้ก๊าซฯ โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้า เพราะนโยบายของนายไบเดน จะเน้นเรื่องการใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนมากขึ้น และภาคการขนส่ง ที่มีการเปลี่ยนรถยนต์ของทางราชการเป็นรถไฟฟ้าทั้งหมด โดยจะใช้ก๊าซฯ ที่ผลิตได้จากแหล่งในประเทศไปเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ก็จะทำให้มีการใช้ก๊าซฯ มากขึ้น
สำหรับธุรกิจถ่านหินของบ้านปู จะไม่มีการขยายการลงทุนเพิ่มเติมในแหล่งใหม่ ๆ แต่จะผลิตโดยเทคโนโลยีถ่านหินสะอาด จัดหาถ่านหินที่มีกำมะถันต่ำ มีค่าความร้อนสูง ซึ่งในเหมือลที่ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และจีนมีคุณภาพสูง และมีการนำดิจิทัลเข้ามาใช้ในการบริหารงานเหมือง นอกจากนี้ จะมีการติดตั้งพลังงานสะอาดในบริเวณเหมืองเพิ่มมากขึ้น โดยเริ่มต้นที่ออสเตรเลียมีการทำโซลาร์ฟาร์มขนาดเล็กเพื่อผลิตไฟฟ้าในเหมืองที่เซนเทนเนียล และจะมีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมด้วยในอนาคต
ส่วนการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด ใน 5 ปีนี้ จะมีการเพิ่มเงินลงทุนในโครงการพลังงานสะอาดมากขึ้น โดยจะผลักดันโครงการต่าง ๆ ให้เป็นไปตามแผน ซึ่งในปีนี้จะมีการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ของโครงการโรงไฟฟ้าที่ญี่ปุ่น และเวียดนาม ส่วนในจีนกำลังดูเพิ่มเติมจากปัจจุบันมีพลังงานหมุนเวียนรวม 177 เมกะวัตต์ โดยจะเพิ่มประเทศในการลงทุนมากขึ้น และจะเข้าไปลงทุนโครงการโซลาร์รูฟ และโซลาร์ลอยน้ำมากขึ้นด้วย
21 ก.ค. 2568
22 ก.ค. 2568
21 ก.ค. 2568
22 ก.ค. 2568