บ้านปู เพาเวอร์ จํากัด (มหาชน)

Last updated: 2 พ.ย. 2564  |  512 จำนวนผู้เข้าชม  | 

บ้านปู เพาเวอร์ จํากัด (มหาชน)

บ้านปู เข้าซื้อหุ้น Temple I 100% เรียบร้อยแล้ว

นายกิรณ ลิมปพยอม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จํากัด (มหาชน) (BPP) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 บริษัท BKV-BPP Power LLC (BKV-BPP) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนในสัดส่วนที่เท่ากัน 50% ถือหุ้นโดย บริษัท Banpu Power US Corporation (BPPUS) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BPP และ BKV Corporation (BKV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท บ้านปู จํากัด (มหาชน) ได้ทำการเข้าซื้อขายหุ้นในสัดส่วน 100% ในบริษัท Temple Generation Intermediate Holdings II, LLC ซึ่งถือหุ้น 100% ในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple I ตั้งอยู่ในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา มีกําลังการผลิต 768 เมกะวัตต์ โดยมีมูลค่าการลงทุน 430 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ (เทียบเท่า ประมาณ 14,298 ล้านบาท) เป็นเงินลงทุนของ BPP ตามสัดส่วนการลงทุน 215 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือ เทียบเท่า 7,149 ล้านบาท โดยเริ่มรับรู้รายได้จากการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป

จากการลงทุนดังกล่าว ทำให้ BPP มีกําลังการผลิตจากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple I ในสัดส่วน 50% หรือ 384 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้า Temple I เป็นโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง มีกําลังการผลิต 768 เมกะวัตต์ เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2557 ตั้งอยู่ในรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์รวมเศรษฐกิจและประชากรที่กําลังเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยโรงไฟฟ้าแห่งนี้สามารถผลิตและจําหน่ายกระแสไฟฟ้าเพื่อรองรับความต้องการไฟฟ้าครอบคลุมกว่า 750,000 ครัวเรือน ในตอนกลางของรัฐเท็กซัส

โรงไฟฟ้าแห่งนี้มีการติดตั้งระบบการจัดการมลภาวะให้อยู่ในระดับต่ำ มีประสิทธิภาพสูง มีความยืดหยุ่นในการเดินเครื่องเพื่อผลิตไฟฟ้าให้สอดรับกับรูปแบบความต้องการใช้ไฟฟ้า อยู่ในลำดับการเรียกจ่ายไฟฟ้าที่ดี ซึ่งเหมาะกับสภาพและการแข่งขันในตลาดซื้อขายไฟฟ้าแบบเสรีของ Electric Reliability Council of Texas

จึงนับเป็นอีกก้าวสำคัญในการดำเนินตามแผนกลยุทธ์ระยะยาว เพื่อสร้างรากฐานการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าในประเทศสหรัฐอเมริกา และยังเป็นการก้าวสู่ตลาดซื้อขายไฟฟ้าที่มีความก้าวหน้าและเป็นตลาดซื้อขายไฟฟ้าที่เปิดเสรีอีกด้วย จึงนับเป็นการลงทุนเพื่อเสริมสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนตามเป้าหมายกําลังการผลิต 5,300 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568 โดยมุ่งเน้นการลงทุนในโรงไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในตลาดที่มีความเติบโตของความต้องการใช้ไฟฟ้า และมีนโยบายสนับสนุนจากรัฐบาล

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้