บ้านปู จำกัด (มหาชน)

Last updated: 28 ก.พ. 2565  |  733 จำนวนผู้เข้าชม  | 

บ้านปู จำกัด (มหาชน)

กลุ่มบ้านปู มาถูกทาง

หลังประกาศกลยุทธ์ Greener & Smarter เราได้เห็นการเดินหน้าของ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ไปสู่เป้าหมายการขยายพอร์ตพลังงานสะอาด ที่กำลังเป็นเทรนด์ทั่วโลก จากกระแสการลดโลกร้อน และการใส่ใจสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับกันสรรหาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ที่จะทำให้บริษัทพลังงานทั่วโลก ที่กำลังอยู่ในช่วงของ Energy Transition บ้านปูก็เป็นหนึ่งในการปรับองค์กร เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่อนาคตพลังงานเพื่อความยั่งยืน ภายใต้กลยุทธ์ Greener & Smarter โดยบ้านปูมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างสมดุลระหว่างการสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการพัฒนาชุมชนและสิ่งแวดล้อม ตามหลัก ESG (Environmental, Social and Governance) ตลอดจนยึดมั่นในการเป็นพลเมืองที่ดีในทุกพื้นที่ที่บริษัทฯ เข้าไปดำเนินธุรกิจ (Good Corporate Citizenship) เพื่อสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนแก่ผู้มีส่วนได้เสียในทุกภาคส่วน

“เรื่องของการพัฒนาอย่างยั่งยืน (sustainable development) ได้กลายเป็นเมกะเทรนด์ที่ผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจมาอย่างต่อเนื่อง เพราะสภาพแวดล้อมในโลกที่เปลี่ยนแปลงไป และมนุษย์มีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ หากเรายังใช้ชีวิตหรือดำเนินธุรกิจโดยไม่สนใจผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม อีกไม่นานธรรมชาติอาจส่งคำเตือนที่รุนแรงยิ่งขึ้นมาถึงพวกเราแน่นอน”

ปัจจุบันกลุ่มบ้านปู มีการลงทุนใน 10 ประเทศ อาทิ เวียดนาม ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น จีน สหรัฐอเมริกา เป็นต้น ซึ่งเป็นประเทศยุทธศาสตร์สำคัญ ที่สามารถขยายพอร์ตพลังงานสะอาด และเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการพัฒนาด้านพลังงานทดแทน ดังนั้น จะมีการมองหาโอกาสการลงทุนทั้งในประเทศที่ดำเนินธุรกิจอยู่ทั้ง 10 ประเทศ และขยายการลงทุนไปสู่ตลาดใหม่ๆ ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง โดยมุ่งเน้นโครงการที่สร้างกระแสเงินสดได้ทันที เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายกำลังการผลิตรวม 6,100 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568 โดยเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนไม่น้อยกว่า 20%

การดำเนินธุรกิจด้านพลังงานผ่าน บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP ในฐานะที่เป็นหนึ่งในบริษัท Flagship ของกลุ่มบ้านปู มีปณิธานเดียวกันที่ว่า “อุตสาหกรรมที่ดีจะต้องพัฒนาควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม” ซึ่งได้นำไปเป็นหลักปฏิบัติในทั้ง 7 ประเทศ ที่ BPP เข้าไปดำเนินธุรกิจ ได้แก่ ประเทศไทย สปป.ลาว จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา โดยคำนึงถึงความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่และความต้องการของชุมชนโดยรอบเป็นสำคัญ การเป็นพลเมืองที่ดีในทุกพื้นที่นี้ถือเป็นหนึ่งในจุดแข็งของ BPP ที่ช่วยให้การบริหารโครงการโรงไฟฟ้า และความสัมพันธ์กับชุมชนรอบข้างเป็นไปได้อย่างราบรื่น ทั้งนี้ BPP มีการกำหนดนโยบายด้าน ESG ที่สอดคล้องและเป็นเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับกลุ่มบ้านปู และมีคณะกรรมการการพัฒนาที่ยั่งยืน (Banpu Power Sustainable Development Committee) ในการกำกับดูแลการดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมาย เพื่อสร้างประโยชน์อย่างสมดุลให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม

ภายใต้หลักการ ESG คือที่มาของการดำเนินงานของบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP ผ่านกลยุทธ์ Greener & Smarter เพื่อมุ่งส่งมอบพลังงานไฟฟ้าที่สะอาดและฉลาดขึ้น ด้วยจุดยืนในการเป็นผู้นำในธุรกิจพลังงานไฟฟ้าคุณภาพเพื่อโลกที่ยั่งยืน (We ARE Power for the Sustainable World) บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการสร้างความสมดุลของพอร์ตโฟลิโอ ทั้งจากพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไปและพลังงานหมุนเวียน ตามหลักของความยั่งยืนด้านพลังงาน อันสะท้อนให้เห็นถึงความรับผิดชอบและความตั้งใจที่จะส่งมอบพลังงานไฟฟ้าคุณภาพในราคาที่เหมาะสม (Affordable) สามารถส่งมอบพลังงานได้อย่างต่อเนื่อง (Reliable) และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco-Friendly)

BPP เลือกลงทุนในธุรกิจพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น (Greener) เพื่อตอบรับกับเทรนด์ Decarbonization ทั้งโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ และโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ตลอดจนการขยายการลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานผ่าน บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด ที่บ้านปู และ BPP ถือหุ้นในสัดส่วนเท่ากันที่ 50% เช่น โซลาร์ รูฟท็อป ระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้า ยานพาหนะไฟฟ้า การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ และโซลูชันด้านเทคโนโลยีพลังงานรับเทรนด์พลังงานแห่งอนาคต

ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไป BPP ยังคงดำเนินการด้วยความรับผิดชอบต่อลูกค้า และคำนึงถึงสมดุลของความยั่งยืนด้านพลังงานเป็นสำคัญ เพราะความต้องการพลังงานและความพร้อมของการเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาดมีความแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ โดยได้นำเทคโนโลยี HELE หรือ High Efficiency, Low Emissions เข้ามาใช้เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้า และทำให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

BPP ตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2568 จะมีกำลังผลิต 5,300 เมกะวัตต์ โดยเป็นกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 800 เมกะวัตต์ และมีอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อหน่วยผลิตภัณฑ์ไม่เกิน 0.676 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อเมกะวัตต์-ชั่วโมง

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่กลุ่มบ้านปู ได้เดินหน้าเรื่องการสร้างสมดุลระหว่าง การสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการพัฒนาชุมชนและสิ่งแวดล้อม ถือเป็นความรับผิดชอบที่ดี และยังสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น ที่ถือว่าได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโลกที่ดีไปร่วมกัน ถือว่ากลุ่มบ้านปูได้เดินมาถูกทาง ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ที่กำลังเกิดขึ้นภายใต้กระแสรักษ์สิ่งแวดล้อม และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของมนุษย์หลังจากที่มีการระบาดของโรงโควิด-19 ที่ทำให้มีการปรับตัวขนานใหญ่ แต่กลุ่มบ้านปูก็ยังสามารถปรับตัวและเดินหน้าไปสู่เป้าหมายได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้