บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

Last updated: 23 พ.ย. 2565  |  429 จำนวนผู้เข้าชม  | 

บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

กลุ่มบางจาก เปิดแผนยุทธศาสตร์ปี 2573 ดัน EBITDA แตะ 1 แสนล้านบาท

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าบริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทบางจาก กำลังก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญครั้งใหม่ที่ท้าทาย ภายใต้เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emission) ในปี 2593 โดยมีเป้าหมายแรกคือความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2573 บริษัทฯ จึงได้มีการปรับวิสัยทัศน์และพันธกิจองค์กร สู่วิสัยทัศน์ใหม่ ‘รังสรรค์โลกยั่งยืนด้วยนวัตกรรมสีเขียว’ และกำหนดยุทธศาสตร์การเติบโตจนถึงปี 2573 (ค.ศ. 2030) สำหรับทั้ง 5 กลุ่มธุรกิจ ที่สอดรับกับแนวทางของแผนงาน BCP 316 NET เพื่อรองรับเป้าหมายสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต โดยตั้งเป้าจะมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) แตะ 100,000 ล้านบาท จากปีนี้คาดว่าจะมี EBITDA ที่ 40,000 ล้านบาท

ซึ่งจากวิกฤติโควิด-19 ที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อต้นปี 2563 กลุ่มบริษัทบางจากได้ปรับองค์กรเพื่อความยั่งยืนผ่านแนวคิด 3Rs – Refocus: เร่งสร้างความมั่นคงด้านพลังงานควบคู่กันกับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด Restructure: การปรับองค์กรเพื่อสร้างช่องทางในการเข้าถึงตลาดและลูกค้า และ Reimagine: การใช้โอกาสและเครื่องมือในการลงทุนที่เหมาะสมเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัท ส่งผลให้บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดีมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564 โดยผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 มี EBITDA สูงถึง 37,773 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยรากฐานที่มั่นคง มีความยืดหยุ่นสูงจากศักยภาพในการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจให้สอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนไปและการเติบโตจากการขยายธุรกิจในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง

จากแผนกลยุทธ์ใหม่ในแต่ละกลุ่มจะมีการสร้างอัตราการเติบโตโดย นายธรรมรัตน์ ประยูรสุข รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน กล่าวว่า จะมุ่งต่อยอดการเติบโตจากศักยภาพใหม่ ๆ โดยการเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต ยังมุ่งเน้นการผลิตผลิตภัณฑ์นอกเหนือจากน้ำมันยานยนต์ และเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพตามความต้องการของตลาดหรือลูกค้าเฉพาะกลุ่ม (Niche Products Refinery) อาทิ Unconverted Oil และเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel หรือ SAF) ที่จะเปิดตัวในปี 2567 ผลักดันการดำเนินงานของ BCP Trading ให้เติบโตเป็นผู้ค้าน้ำมันอิสระอันดับ 1 ที่ตลาดสิงคโปร์ โดยตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วน EBITDA ของกลุ่มธุรกิจเชื้อเพลิงนอกยานยนต์เป็นกว่า 60% ภายในปี 2573

นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด กล่าวว่า จะเร่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ครบครัน เพื่อให้เป็นมากกว่าสถานที่เติมน้ำมัน โดยมุ่งมั่นเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ตอบโจทย์คนทุกวัยภายใต้แนวคิด “YOUR” Greenovative Destination for Intergeneration ผ่านการเติบโตจากธุรกิจ Non-Oil อาทิ อาหารและเครื่องดื่ม และ EV Charger สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนความร่วมมือกับคู่ค้าและรายได้จากแฟรนไชส์ เน้นสตรีทฟู๊ด และ Grab & Go โดยจะเพิ่มยอดขายจากการขยายเครือข่ายสถานีบริการบางจากด้วยเป้าหมาย 1,900 แห่ง และร้านกาแฟอินทนิล 3,000 แห่ง ในปี 2573

กลุ่มธุรกิจพลังงานไฟฟ้า นายภูวดล สุนทรวิภาต ผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วางเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าเป็น 6,800 กิกะวัตต์ชั่วโมง โดยมีสัดส่วนหลักจากการเติบโตในกลุ่มธุรกิจพลังงานสีเขียว จากแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยฉบับใหม่ (PDP2022) และการเติบโตในต่างประเทศตามการเปลี่ยนผ่านพลังงานของโลกสู่พลังงานสะอาด และขยายธุรกิจที่มีศักยภาพในอนาคต อาทิ ธุรกิจแบตเตอรี่และการกักเก็บพลังงาน การให้บริการด้านเทคโนโลยีพลังงาน พลังงานรูปแบบใหม่และธุรกิจคาร์บอนต่ำอื่น ๆ และธุรกิจคาร์บอนเครดิต ที่จะเติบโตตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ โดยมีแร่ลิเทียมจากเหมืองที่บางจากเคยไปลงทุน 6,000 ตันต่อปี สัญญา 20 ปี จะร่วมกับพันธมิตรในการต่อยอดสร้างโรงถลุงแร่ลิเทียม โรงงานผลิตแบตเตอรี่ในประเทศไทย โดยจะผลิตทั้งแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ และแบตเตอรี่สำหรับระบบกักเก็บพลังงานในโรงไฟฟ้า และทำโรงงาน Green Ammonia ในประเทศไทย

กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ภายใต้การดำเนินงานโดยบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) นายกิตติพงษ์ ลิ่มสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บีบีจีไอ กล่าวว่า ได้กำหนดแนวทางและเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนธุรกิจหลักกว่า 70% ของ EBITDA ให้มาจากผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง โดยเน้นการรุกขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีชีววิทยาสังเคราะห์ (Synthetic Biology หรือ SynBio) เพื่อนำมาออกแบบและสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลสุขภาพและความงามของผู้บริโภคสอดรับกับเทรนด์ของโลก เช่น good health and well–being นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนต่อยอดการเติบโตในกลุ่มธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อเพลิงอากาศชีวภาพแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel -SAF) สำหรับอุตสาหกรรมการบิน

ส่วน กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติและธุรกิจใหม่ นายบัณฑิต หรรษาไพบูลย์ รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานยุทธศาสตรและบริหารความยั่งยืน กลุ่มบริษัทบางจาก กล่าวว่า ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม มีเป้าหมายการผลิตมากกว่า 100,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน (boepd) ภายในปี 2573 จากการดำเนินการแหล่งปิโตรเลียมในประเทศของนอร์เวย์ ของบริษัท OKEA ASA ที่กลุ่มบางจากเป็นผู้ถือหุ้นหลัก นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณาการเติบโตในธุรกิจด้านทรัพยากรธรรมชาติในแหล่งอื่น ๆ ที่มีศักยภาพในอนาคต ส่วนกลุ่มธุรกิจใหม่ ตั้งเป้าหมายการเพิ่มสัดส่วน EBITDA กว่า 7,000 ล้านบาท ภายในปี 2573 จากธุรกิจที่กำลังพัฒนา อาทิ Winnonie ผู้นำแพลตฟอร์มให้บริการรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าพร้อมเครือข่ายสับเปลี่ยนแบตเตอรี่อัตโนมัติ ธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และธุรกิจ New S-Curve

นายชัยวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยการวางแผนเติบโตอย่างครอบคลุมในทุกธุรกิจตามแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าว จะทำให้ EBITDA ในปี 2573 เติบโตถึง 10 เท่า จากระดับเฉลี่ยประมาณ 10,000 ล้านบาท ในช่วงปี 2558-2563 ขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลระหว่างความมั่นคงทางพลังงานและความยั่งยืนของโลก ตอกย้ำแนวทางการพัฒนานวัตกรรมธุรกิจอย่างยั่งยืนไปกับสิ่งแวดล้อมและสังคมที่บางจากฯ ให้ความสำคัญมาตลอดเกือบ 40 ปีของการดำเนินธุรกิจ

โดยนับตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา กลุ่มบริษัทบางจากในฐานะผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ได้ขยายสู่ธุรกิจใหม่ ๆ นอกเหนือไปจากธุรกิจที่เป็นรากฐานสำคัญอย่างกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมันและกลุ่มธุรกิจการตลาด และมีความเป็นบริษัทสากลจากการดำเนินธุรกิจในกว่า 10 ประเทศทั่วโลก เปรียบเสมือนการเดินทางสู่บทใหม่ ๆ ที่มีโอกาสแห่งการเติบโตมากมายรออยู่ นำมาสู่การปรับอัตลักษณ์องค์กรและการเริ่มใช้ตราสัญลักษณ์องค์กร ‘ใบไม้ใบใหม่’ สื่อความหมายแทนด้วยนวัตกรรมพลังงานที่ขับเคลื่อนไปสู่อนาคตอย่างไม่สิ้นสุด เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ ‘รังสรรค์โลกยั่งยืนด้วยนวัตกรรมสีเขียว’ พันธกิจ ‘เรามุ่งมั่นขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอย่างยั่งยืน โดยคงไว้ซึ่งสมดุลแห่งความมั่นคงทางพลังงาน เสริมสร้างคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดี ด้วยนวัตกรรมโซลูชั่นสีเขียว ดำเนินธุรกิจด้วยความคำนึงถึงเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และการกำกับดูแลกิจการ (ESG) อย่างมีความรับผิดชอบต่อทุกภาคส่วน’ และกลยุทธ์องค์กรในการเติบโตและการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัทบางจาก”

ทั้งนี้ ตราสัญลักษณ์ ‘ใบไม้ใบใหม่’ เริ่มต้นใช้ทดแทนตราสัญลักษณ์รูปใบไม้เดิมอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 นี้เป็นต้นไป โดยการเปลี่ยนแปลงตราสัญลักษณ์องค์กรใหม่นี้ ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานและบริการทางธุรกิจใด ๆ ของบริษัท อีกทั้งตราสัญลักษณ์ที่สถานีบริการบางจาก ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มธุรกิจการตลาดและสมาชิกบัตรบางจากกรีนไมล์ จะยังคงเดิม ไม่มีการปรับเปลี่ยนใด ๆ จนกว่าจะมีการสื่อสารเรื่องการเปลี่ยนแปลง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้