ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)

Last updated: 19 ม.ค. 2566  |  357 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)

CEO คนใหม่ OR เปิดตัวแนวคิด “RISE OR”

นายดิษทัต ปัตยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR พร้อมสานต่อวิสัยทัศน์ “Empowering All toward Inclusive Growth” พร้อมเปิดตัวแนวคิด “RISE OR” หรือ “ติดปีก OR” ให้ทะยานไปสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน เสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจเดิม และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ตอบโจทย์เป้าหมาย “OR’s SDG” ในแบบฉบับของ OR ในการเพิ่มโอกาสที่จะเติบโตเคียงข้างชุมชน เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม

นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร OR กล่าวว่า การเข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ของ OR พร้อมสานต่อวิสัยทัศน์ “Empowering All toward Inclusive Growth” หรือ “เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโตร่วมกัน” และมุ่งผลักดัน OR ให้ทะยานไปสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ด้วยแนวคิด “RISE OR” ที่สะท้อนถึงบทบาทความเป็นผู้นำที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนองค์กร ซึ่ง RISE ประกอบด้วย Result การมุ่งสร้างผลลัพธ์ที่เป็น รูปธรรม Intelligence การตัดสินใจที่ฉลาดบนพื้นฐานของข้อมูลข่าวสารที่มีประสิทธิภาพ Synergy การผนึกกำลังของธุรกิจทั้งภายในและภายนอกกลุ่ม ปตท. และ Entrepreneurship การทุ่มเทในบทบาทหน้าที่ด้วยจิตวิญญาณของผู้ประกอบการ

โดยให้ความสำคัญกับการลงมือทำที่ชัดเจนทั้ง 3 ด้านได้แก่ 1.Synchronization for Ecosystem หรือ การประสานธุรกิจพลังงานและไลฟสไตล์ให้เป็นหนึ่ง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศของ OR ผ่านการใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบของแต่ละธุรกิจ ในการเสริมความเข้มแข็งซึ่งกันและกัน ให้สามารถตอบโจทย์วิถีชีวิตแห่งอนาคต ทั้งด้าน offline และ online
2.Synergy for Impact หรือ การผนึกกำลังของธุรกิจทั้งภายในและภายนอกกลุ่ม ปตท. เพื่อยกระดับผลกระทบเชิงบวกต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดแบบครบวงจร พร้อมเปิดประตูความร่วมมือสู่การเติบโตร่วมกัน
3.Sustainability for Future หรือ การสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่าน SDG ในแบบฉบับของ OR เพื่อตอบโจทย์เป้าหมาย OR 2030 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น S – Small โอกาสเพื่อคนตัวเล็ก (Opportunities for Communities) ผ่านการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชน D – Diversified โอกาสเพื่อการเติบโตทุกรูปแบบ (More Partners, Products and Services) ผ่านศักยภาพของ OR ที่จะเป็น Platform ในการกระจายโอกาสทางธุรกิจที่หลากหลายและครอบคลุม พร้อมเติบโตไปด้วยกัน และ G – Green โอกาสเพื่อสังคมสะอาด (Low Carbon Business Areas) ผ่านการส่งเสริมธุรกิจทุกประเภทของ OR ให้เป็นธุรกิจสีเขียว เพื่อสนับสนุนให้เกิดสังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน และบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2030 ตลอดจนมุ่งสู่การบรรลุการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon) ภายในปี 2050

อีกทั้งยังได้เสริมแนวคิดเกี่ยวกับกลไกใหม่ในการบริหารงานเพื่อขับเคลื่อนองค์กรตามพันธกิจทั้ง 4 ด้าน (Seamless Mobility, All Lifestyles, Global Market และ OR Innovation) ได้แก่
1.Ecosystem Design หรือ การออกแบบระบบนิเวศสำหรับธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ที่ตั้งเป้าจะเป็นผู้นำในธุรกิจ EV โดยมีแผนที่จะมีหัวชาร์จ EV จำนวน 7,000 หัวชาร์จ และจะมีส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันในประเทศเป็นอันดับ 1
2.Professional Management หรือ การพัฒนาบุคลากรภายในควบคู่กับการสรรหาพันธมิตร ที่มีความเชี่ยวชาญจากภายนอก
3.Strategic Alliance หรือ การสร้างพันธมิตรเพื่อหาโอกาสขยายธุรกิจทั้งภายในและต่างประเทศ
4.Sustainability Criteria หรือการกำหนดหลักเกณฑ์ด้าน People & Planet ในการทำธุรกิจเพื่อความยั่งยืน โดยมุ่งมั่นเดินหน้าไปสู่การเติบโตในทุกมิติ

ทั้งหมดนี้จะเน้นผลลัพธ์ในการดำเนินงาน สร้างการเติบโตให้ธุรกิจปัจจุบันให้เข้มแข็ง หา Synergy Capture ให้ได้ว่า Value อยู่ตรงไหน การลงทุนใหม่ในต่างประเทศจะมีความรอบคอบมากขึ้น ต้องหา Partner ที่มีความชำนาญในแต่ละด้านและแต่ละประเทศ เพื่อให้การขับเคลื่อนการลงทุนที่เหมาะสมกับ OR และสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ทั้งด้านรายได้ สังคม และสิ่งแวดล้อม

“OR มี Asset ขนาดใหญ่ และเครือข่ายที่กว้างไกล กำลังสร้าง OR Ecosystem โดยมีความเข้มแข็งในด้าน Mobility จะเพิ่มการลงทุนด้าน Lifestyle จะปรับตัวจาก Offline สู่ Online ซึ่งในเร็วๆ นี้จะมีการเปิดตัว Super Application ที่จะตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า และจะสร้างสรรค์การลงทุนใหม่ ๆ มากขึ้น” นายดิษทัต กล่าว

ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของ OR มาจากธุรกิจที่ร่วมกับ Partnership ถึง 50% แสดงให้เห็นการเติบโตร่วมกันกับพันธมิตร โดยธุรกิจ Mobility ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 70% ธุรกิจ Lifestyle ประมาณ 20% ธุรกิจ Global ประมาณ 6-7% ที่เหลือเป็นธุรกิจอื่น ๆ แต่ในอนาคตได้มีการวาง Capex หรือเงินลงทุนที่จะให้ความสำคัญกับ Lifestyle มากขึ้นถึง 45% ในขณะที่ Mobility ก็ยังเดินหน้าต่อเนื่อง

ส่วนเรื่องผลกระทบจากการซื้อกิจการของ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กับบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) OR มีความพร้อมในการแข่งขัน

สำหรับการที่รัฐบาลมีนโยบายเรื่องราคาน้ำมัน น้ำมันของ OR มาจากโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งต้นทุนของโรงกลั่นน้ำมันขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันในตลาดโลก ราคาน้ำมันที่ขายปลีกหน้าสถานีบริการ จะเป็นราคาที่สะท้อนกับราคาตลาด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้