อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน)

IVL เผยผลประกอบการปี 2565 สูงสุดเป็นประวัติการณ์

บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน รายงานผลประกอบการปี 2565 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากฐานการผลิตที่กระจายอยู่ทั่วโลก ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการใช้สินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคได้อย่างยืดหยุ่น

นายดีลิป กุมาร์ อากาวาล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม IVL กล่าวว่า ผลการดำเนินงานปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 18.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับปี 2564 เป็นรายได้ที่สูงเป็นประวัติกาณ์ และมีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งเท่ากับ 2.24 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 111% โดยมี Core EBITDA เท่ากัน 2.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 31% เป็นผลมาจากรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบบูรณาการที่มีความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ ประกอบกับความคล่องตัวของทีมผู้บริหาร ทำให้ IVL สามารถยืนหยัดในสถานการณ์ต่าง ๆ ของโลกที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด เพื่อเดินหน้าสร้างรายได้ตลอดวงจรธุรกิจ ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นแผนการเติบโตของธุรกิจ การบูรณาการที่ประสบความสำเร็จสำหรับกิจการที่เข้าซื้อเชิงกลยุทธ์อย่างธุรกิจสารลดแรงตึงผิวในละตินอเมริกา และธุรกิจบรรจุภัณฑ์ในประเทศเวียดนาม นอกจากนี้ ทีมผู้บริหารได้ทุ่มเททำงานและมุ่งมั่นต่อเป้าหมายความยั่งยืน รวมถึงเทคโนโลยีการรีไซเคิล และการนำวัตถุดิบชีวมวลมาใช้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ อีกทั้งโครงการปรับเปลี่ยนต้นทุนที่กำลังดำเนินอยู่ของ Project Olympus สามารถเพิ่มประสิทธิผลการดำเนินงานในรอบหนึ่งปีรวม 449 ล้านเหรียญสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานประจำปีที่แข็งแกร่งได้รับผลกระทบจากความท้าทายที่มากกว่าปกติในไตรมาส เนื่องด้วยความกังวลต่อภาวะชะลอตัวและรอบการขนส่งที่ลดลง ส่งผลให้ลูกค้าต้องระบายสต๊อกสินค้าเป็นจำนวนมาก บริษัทฯ มี Core EBITDA ในไตรมาส 4 ปี 2565 เท่ากับ 264 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 43% เมื่อเทียบปีต่อปี ส่วนรายได้อยู่ที่ 3.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 1% นอกจากนี้ การล็อกดาวน์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในประเทศจีนยังคงดำเนินต่อเนื่องจนถึงไตรมาสสุดท้ายของปี ทำให้อุปสงค์ของโรงงานลดลงทั่วทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ IVL และส่งผลให้กำไรน้อยลงจากราคาขายที่ลดลงและต้นทุนที่สูงขึ้น ขณะที่ต้นทุนพลังงานและสาธารณูปโภคที่สูงขึ้น ยังคงส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานในยุโรป เนื่องจากสงครามในประเทศยูเครนที่ยังคงยืดเยื้อต่อไปในฤดูหนาว

ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันและเสริมความยืดหยุ่นของธุรกิจ IVL ได้ประเมินสินทรัพย์ของธุรกิจ Fibers ในยุโรป และโรงงาน PTA ในเอเชีย ซึ่งมีผลการดำเนินงานต่ำกว่าคาด ทำให้เกิดรายการเงินสดด้อยค่า 7 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาส 4 ปี 2565 และผลกระทบที่ไม่ใช่เงินสดมูลค่า 253 ล้านเหรียญสหรัฐ จากผลดังกล่าว บริษัทฯ จึงคาดว่าจะมี EBITDA เพิ่มขึ้นอีก 38 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2566 และจะเพิ่มขึ้นถึง 65 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2568

“ในปี 2565 บริษัทฯ ได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำตลาดที่แข็งแกร่ง รูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบบูรณาการระดับโลก และกลุ่มผลิตภัณฑ์หลากหลายที่ตอบสนองความต้องการใช้ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ช่วยให้สามารถสร้างรายได้ที่อยู่เหนือความผันผวนตลอดวงจรธุรกิจ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิผลในทุกภูมิภาคที่เราดำเนินธุรกิจท่ามกลางความผันผวนทั่วโลก” นายดีลิป กล่าว

ทั้งนี้ ความต้องการพื้นฐานของผู้บริโภคยังคงแข็งแกร่ง บริษัทฯ คาดว่าการลดสต๊อกสินค้าซึ่งกระทบปริมาณขายในไตรมาสที่ 4 ปี 2565 จะฟื้นตัวในครึ่งแรกของปีนี้

คณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติการจ่ายเงินปันผล 1.60 บาทต่อหุ้น ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์