Last updated: 11 ต.ค. 2566 | 7445 จำนวนผู้เข้าชม |
ปตท.เผยผลประกอบการปีนี้ดีขึ้นแน่นอน
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 นี้ คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก จากราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ขณะที่ค่าการกลั่นยังทรงตัวในระดับที่ดี แม้ว่าจะต่ำกว่าปี 2565 แต่ก็นับว่าดีกว่าช่วงต้นปีที่ผ่านมา รวมทั้งบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ยังมีการเติบโต ทำให้ผลประกอบการยังเติบโตขึ้นไปด้วย ขณะที่ยอดขายของ ปตท.ในปีนี้ ก็คาดปรับตัวสูงขึ้น เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และปีนี้ไม่โควิดแล้ว
สำหรับภาพรวมทิศทางการดำเนินธุรกิจปีนี้ยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยเฉพาะธุรกิจก๊าซ หลังจาก ปตท.สผ. สามารถเข้าพื้นที่แปลง G1/61(เอราวัณ) สามารถผลิตก๊าซเพิ่มขึ้นจาก 200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เป็น 400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และตามแผนจะเพิ่มเป็น 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตตีอวันภายในเดือนเม.ย.2567 ขณะเดียวกันเทอมินอล LNG แห่งที่ 2 ขนาด 7.5 ล้านตันก็เสร็จตามแผน ส่งผลให้ปัจจุบันสามารถรองรับ LNG รวม 19 ล้านตัน
ส่วนธุรกิจพลังงานหมุนเวียนของกลุ่ม ปตท. นายอรรถพล กล่าวว่า ปตท. สามารถทำได้ดีกว่าแผน โดยปัจจุบันกำลังการผลิตทั้งในและต่างประเทศรวมกันกว่า 3,000 เมกะวัตต์ ปตท.จึงได้ปรับเป้ากำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นจากเป็น 15 กิกะวัตต์ จากเดิมตั้งเป้า 12 กิกะวัตต์ ภายในปี2573 นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาลงทุนโครงการกรีนไฮโดรเจนร่วมกับทางซาอุฯ ด้วย
ด้านธุรกิจแบตเตอรี่ ล่าสุดบริษัท นูออโว พลัส จำกัด ร่วมทุนกับ Gotion Hi-tech ตั้งบริษัทร่วมทุน NV Gotion สร้างโรงงานผลิตชุดแบตเตอรี่ กำลังการผลิต 2 กิกะวัตต์-ชั่วโมงต่อปี ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) คาดว่าจะสามารถผลิตและส่งมอบแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนคุณภาพสูงแก่ตลาดได้ภายในปีนี้ และสามารถขยายได้เป็น 4 กิกะวัตต์-ชั่วโมงต่อปีในอนาคต
ส่วนกรณีที่รัฐบาลมีนโยบายปรับลดค่าไฟงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.2566 ลงเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย และให้ ปตท.รับภาระราคาก๊าซไปก่อน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 8,000-9,000 ล้านบาท คาดว่าจะไม่มีผลกระทบต่อฐานะการเงินของ ปตท.อย่างมีนัยสำคัญ เพราะคาดว่ารัฐจะทยอยชำระคืนในงวดถัดไป
ส่วนกรณีที่ภาครัฐเตรียมปรับค่าการตลาดไม่เกิน 2 บาทต่อลิตร นายอรรถพล กล่าวว่า บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ พร้อมให้ความร่วมมือ ซึ่งที่ผ่านมาค่าการตลาดของโออาร์ไม่ถึง2 บาทต่อลิตร แต่สาเหตุที่ข้อมูลไม่ตรงกับของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) ที่ระบุว่าค่าการตลาดสูงกว่า 2 บาทต่อลิตร เพราะฐานข้อมูลแตกต่างกัน โดยทาง สนพ.ใช้ข้อมูลอ้างอิงน้ำมันของสิงคโปร์ที่ไม่มีข้อมูลมาตรฐานยูโร 4 แต่ของ OR ใช้ข้อมูลยูโร 4 จากราคาหน้าโรงกลั่นฯ ซึ่งในต้นปี 2567มาตรฐานน้ำมันไทยจะเป็นยูโร5 การอ้างอิงราคาของผู้ค้าน้ำมันและสนพ.ก็จะตรงกัน
ส่วนกรณีสงครามในอิสราเอล ปตท.มองว่าไม่น่าจะส่งผลต่อปริมาณน้ำมันในโลก เพราะไม่ได้เป็นแหล่งผลิตน้ำมัน แต่อาจจะส่งผลทางด้านจิตวิทยาบ้างให้มีการปรับขึ้นประมาณ 3-4 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยล่าสุดเริ่มอ่อนตัวลงมาบ้างแล้ว แม้ว่า อาจจะสูงกว่าราคาช่วงก่อนเกิดสงครามประมาณ 2 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทั้งนี้มองว่าหากเหตุการณ์ไม่ได้ยืดเยื้อหรือขยายวงกว้างออกไป ก็ไม่น่าจะต้องเป็นห่วง ซึ่งปตท. ได้เตรียมความพร้อมดูแลในการสำรองพลังงานให้เพียงพอต่อการใช้ในประเทศทั้งน้ำมัน และก๊าซ ทั้งนี้ ยืนยันว่าไทยยังมีพลังงานใช้อย่างเพียงพอ
8 ธ.ค. 2568
8 ธ.ค. 2568
8 ธ.ค. 2568
8 ธ.ค. 2568