โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน)

ปี 66 GGC เริ่มมีรายได้จากกลุ่มธุรกิจ Food & Nutraceutical

รายงานข่าวจาก บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) (GGC) แจ้งว่า ในปี 2566 บริษัทฯ ได้เริ่มดำเนินธุรกิจ Food & Nutraceutical ซึ่งจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เป็นส่วนประกอบอาหาร และโภชนเภสัชต่าง ๆ เช่น กลุ่มสารให้ความหวาน กลุ่ม Plant Based Protein กลุ่ม Antioxidant Extract เป็นต้น โดยรับรู้รายได้จากธุรกิจ Food & Nutraceutical จำนวน 50 ล้านบาท

ส่วนกลุ่มธุรกิจเมทิลเอสเทอร์ ปริมาณการขายปรับตัวเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน มาอยู่ที่ 319,894 ตัน ตามความต้องการที่เพิ่มขึ้น จากนโยบายของภาครัฐที่คงอัตราการผสมน้ำมันไบโอดีเซลไว้ที่ B7 ตลอดทั้งปี แต่เนื่องจากราคาขายเมทิลเอสเทอร์ปรับตัวลดลง 27% ตามราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศ ประกอบกับการปรับสูตรคำนวณราคาเมทิลเอสเทอร์ใหม่ อ้างอิงจากสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 ทำให้ราคาเมทิลเอสเทอร์โดยรวมปรับตัวลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับสูตรราคาเดิม ส่งผลทำให้บริษัทฯ รับรู้รายได้จากการขายของธุรกิจผลิตภัณฑ์เมทิลเอสเทอร์ จำนวน 12,445 ล้านบาท ลดลง 24%

และกลุ่มธุรกิจแฟตตี้แอลกอฮอล์ มีปริมาณการขาย 97,390 ตัน ใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศจีนซึ่งเป็นผู้ซื้อหลัก ยังไม่ฟื้นตัวดีขึ้นตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ อีกทั้งผู้ซื้อในประเทศอินเดีย มีการประกาศใช้มาตรการตอบโต้การอุดหนุน (CVD) โดยปรับเพิ่มภาษีการนำเข้าสินค้าขึ้นในช่วงอัตรา 3-30% สำหรับผู้นำเข้าจากประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นมา ทำให้กำลังซื้อในตลาดอ่อนตัวลง ในขณะที่ราคาผลิตภัณฑ์แฟตตี้แอลกอฮอล์เฉลี่ยที่ปรับตัวลดลง 38% ตามราคาวัตถุดิบที่ลดลง เนื่องจากสต๊อกในประเทศมาเลเซีย อยู่ในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับปี 2565 ทำให้ความกังวลในเรื่องของการขาดแคลนวัตถุดิบหลักในการผลิตสินค้าคลี่คลาย ประกอบกับอุปสงค์จากผู้ผลิต Oleochemical เข้าสู่ภาวะปกติ จากการที่ประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตปกติ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ฟื้นตัวดีขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ รับรู้รายได้จากการขายของธุรกิจผลิตภัณฑ์แฟตตี้แอลกอฮอล์ จำนวน 5,224 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 40%

สำหรับผลประกอบการปี 2566 ของบริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวม 17,719 ล้านบาท ลดลง 29% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มี Adjusted EBITDA 812 ล้านบาท ลดลง 62% ทั้งนี้ บริษัทฯ รับรู้ผลกระทบจาก Stock Loss & NRV จำนวน 341 ล้านบาท ส่งผลให้ขาดทุนสุทธิก่อนรวมผลกระทบจากรายการพิเศษ จำนวน 262 ล้านบาท ลดลง 131%

โดยปี 2566 บริษัทฯ ได้มีการบันทึกรายการพิเศษ ซึ่งเป็นการปรับลดสำรองจากความเสียหายวัตถุดิบคงคลัง และรายการภาษีเงินได้รอตัดบัญชี จำนวน 60 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2565 มีการบันทึกรายการพิเศษ จำนวน 104 ล้านบาท จากการตั้งสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอตัดบัญชีจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ได้จากการปรับโครงสร้างในกลุ่มบริษัทฯ ที่บริษัทฯ ได้มีการรับโอนกิจการทั้งหมดของ บริษัท ไทยแฟตตี้แอลกฮอลส์ จำกัด (TFA) ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ทำให้ในปี 2566 บริษัทฯ ขาดทุนสุทธิหลังรวมผลกระทบรายการพิเศษดังกล่าว 202 ล้านบาท ลดลง 121%

ส่วนไตรมาส 4/66 มีรายได้จากการขาย 4,374 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 3% ขาดทุนสุทธิ 47 ล้านบาท ลดลง 64% และมีกำไรสุทธิหลังรวมผลกระทบรายการพิเศษ 13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 150%