สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง

สกนช. คาดใช้เวลา 5 ปี เคลียร์หนี้กองทุนน้ำมันฯ หมด

นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2567 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะต้องเริ่มชำระหนี้เงินต้นจากการกู้ยืมมาเสริมสภาพคล่อง ประมาณ 1 พันกว่าล้านบาท จากก่อนหน้านี้ได้ชำระแต่ดอกเบี้ยอย่างเดียวเดือนละประมาณ 100-150 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้กองทุนฯ มีเงินไหลเข้าประมาณ 2,733 ล้านบาท ในขณะที่มีการชดเชยราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศให้ไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร ซึ่งปัจจุบันมีกรชดเชยอยู่ 0.40 บาทต่อลิตร คิดเป็นเดือนละประมาณ 829 ล้านบาท ก็จะมีกระแสเงินสดเป็นบวกสามารถนำมาชำระหนี้เงินกู้ได้ โดยมีการคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซลเฉลี่ยอยู่ที่ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ก็จะทำให้สถานะกองทุนน้ำมันฯ เป็นบวกไปเรื่อย ๆ ก็จะมีความสามารถชำระเงินกู้คืนได้ต่อเนื่องไม่ผิดนัดชำระหนี้

อย่างไรก็ตาม สถานะกองทุนฯ ล่าสุด ณ วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 กองทุนฯ ติดลบ 111,663 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมันติดลบ 64,066 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 47,597 ล้านบาท แต่หลังจากนี้จะต้องไม่ทำให้กองทุนฯ ติดลบไปมากกว่านี้ และจะต้องลดการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลให้เป็น 0 บาท เพื่อให้การบริหารจัดการมีเงินไหลเข้ากองทุนฯ เป็นบวก นำเงินมาชำระหนี้กองทุนฯ ให้หมด โดยคาดว่าหากราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยไม่เกิน 80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซลเฉลี่ยไม่เกิน 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล กองทุนฯ จะสามารถใช้หนี้ที่มีอยู่หมดภายใน 5 ปีจากนี้ หรือภายในปี 2571

ทั้งนี้ การดูแลราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศให้ไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร ในขณะที่กองทุนฯ ไม่สามารถที่จะชดเชยต่อไปได้ เพราะมีภาระต้องเริ่มจ่ายคืนเงินกู้ กระทรวงการคลังจะต้องช่วยลดภาษีสรรพสามิตลงมา ซึ่งได้มีการหารือกับกระทรวงการคลัง และมีการรับในหลักการแล้ว แต่กำลังพิจารณาและดูสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป จะมีการปรับลดการจัดเก็บภาษีเท่าไร และช่วงไหน

ส่วนการดูแลราคา LPG ยังมีการชดเชยอยู่ 4.18 บาทต่อกิโลกรัม แต่เงินไหลเข้าออกยังเป็นบวกอยู่ ซึ่งเท่ากับว่ามีการเก็บเงินจาก LPG เข้ามากองทุนฯ มากกว่าจ่ายเงินออกไปชดเชยราคา