บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)

ปตท.สผ. ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 5.05-5.10 แสนบาร์เรล

นายเสริมศักดิ์ สัจจะวรรณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการเงิน บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า ปตท.สผ. ตั้งเป้ายอดขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมในปีนี้อยู่ที่ 505,000-510,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนอยู่ที่ 489,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ส่วนไตรมาส 2 ปีนี้ คาดการณ์ปริมาณขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 500,000-505,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ที่ผ่านมา

โดยเพิ่มขึ้นจากแผนงานการซ่อมบำรุงโครงการในประเทศไทยที่ลดลง และการเข้าซื้อสัดส่วนการลงทุนในโครงการสินภูฮ่อมเพิ่มเติมจาก 80.48% เป็น 90% เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และได้ลงนามในสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติเพิ่มเติมของโครงการอาทิตย์ ที่เพิ่มปริมาณการผลิตตามสัญญาจาก 280 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เพิ่มขึ้นเป็น 330 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

โดยยังคงรักษาต้นทุนการผลิตได้ที่ 30 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และตั้งเป้า EBITDA Margin ไว้ที่ 70-75%

การเติบโตของ ปตท.สผ. ส่วนหนึ่งมาจากพัฒนาโครงการใหม่ ๆ ที่อยู่ในแผน อาทิ โครงการโมซัมบิก แอเรีย 1 ที่คาดว่าจะเริ่มผลิตภายในปี 2571 การพัฒนาโครงการมาเลเซีย กรีนฟิลด์ ที่จะเพิ่มปริมาณการผลิตเข้ามา และการพิจารณาโอกาสการลงทุนโครงการใหม่ ๆ ที่อยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์

สำหรับผลกระทบของนโยบาย นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานธิบดี สหรัฐอเมริกา ต่อราคาน้ำมัน ซึ่งทางสหรัฐฯมีการสนับสนุนการผลิต Shale Oil แต่ปัจจุบันต้นทุนการผลิต Shale Oil เพิ่มขึ้น คาดอยู่ที่ประมาณ 60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่สัดส่วนการผลิตปิโตรเลียมของ ปตท.สผ. มีสัดส่วนน้ำมัน 30% ที่อาจได้รับผลกระทบ แต่บริษัทฯ มีการปริหารจัดการความเสี่ยงโดยการทำประกันความเสี่ยง (Hedging) ขณะที่พอร์ตส่วนใหญ่สัดส่วนยังคงเป็นก๊าซฯ ที่มีสัญญาระยะยาว จึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก

ในปีนี้คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย 65-75 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) เฉลี่ย 14-15 เหรียญสหรัฐฯ ต่อล้านบีทียู

กรณีที่ไทยมีแผนซื้อ LNG จากรัฐอะแลสกา จำนวน 1 ล้านตัน มองว่าความต้องการใช้ LNG ในประเทศยังอยู่ในระดับที่สามารถซื้อเพิ่มได้ ส่วนของ ปตท.สผ. เป็นสัญญาระยะยาว ซึ่งกำลังการผลิตก๊าซฯ ในปัจจุบัน ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศ จึงไม่มีผลกระทบในส่วนนี้