บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)

GC ขาดทุน Q1/68 กว่า 2.5 พันล้านบาท

นายทิติพงษ์ จุลพรศิริดี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2568 ขาดทุนสุทธิ 2,567 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2567 ขาดทุนสุทธิ 606 ล้านบาท

มีรายได้จากการขายรวม 132,547 ล้านบาท ใกล้เคียงกับไตรมาส 4 ปึ 2567 แต่ลดลง 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากกลุ่มโรงกลั่นที่ราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมปรับตัวลดลงตามทิศทางตลาดโลก ซึ่งสถานการณ์ในปัจจุบันมีความท้าทายจากปัจจัยต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้น ทั้งความกดดันจากสภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า ความไม่แน่นอนจากปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ และความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศด้วยการใช้มาตรการทางภาษีตอบโต้ของประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศคู่ค้า ซึ่งส่งผลต่อต้นทุนและความ ต้องการในการบริโภค

มี Adjusted EBITDA 5,377 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 102% จากมาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายและมุ่งเน้นประสิทธิภาพของบริษัทฯ ที่ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ด้านธุรกิจมีการปรับตัวดีขึ้นจากผลประกอบการกลุ่มผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์และโพลิเมอร์เป็นหลัก บริษัทฯ มีความได้เปรียบด้านต้นทุนของโรงโอเลฟินส์ โดยในไตรมาสนี้ ได้รับปริมาณก๊าซอีเทนที่ใช้ในการผลิตสูงขึ้นกว่าไตรมาสก่อน นอกจากนี้ในไตรมาส 4 ปี 2567 มีการบันทึกรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวจากการปรับราคาสัญญาซื้อวัตถุดิบอีเทนจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ย้อนหลังตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 ซึ่งในไตรมาสนี้ไม่มีรายการดังกล่าว

ด้านอัตรากำลังการผลิตของโรงโอเลฟินส์ในไตรมาส 1 ปี 2568 เฉลี่ยอยู่ที่ 80% สูงกว่าอัตราเฉลี่ยในอุตสาหกรรมของภูมิภาคเอเชีย อีกทั้งราคาของกลุ่มผลิตภัณฑ์โพลิเมอร์สูงขึ้นจากไตรมาสก่อนเล็กน้อย ทั้งนี้ มาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศสหรัฐอเมริกา ส่งผลกระทบต่อความกังวลของอุปสงค์ปลายทางของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี รวมถึงอุปทานส่วนเกินที่ทำให้ผู้ผลิตในตลาดยังควบคุมอัตราการผลิตอย่างต่อเนื่อง

กลุ่มผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ ปรับตัวดีขึ้นจากปริมาณการขายของ บริษัท allnex ปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับค่าใช้จ่ายดำเนินการที่ลดลง เป็นผลจากการปรับโครงสร้างของ Vencorex

กลุ่มผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ ปรับตัวลดลงจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์เบนซีนที่ลดลง

กลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม มีผลประกอบการทรงตัว โดย GRM อยู่ที่ 3.4 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ในไตรมาส 1 ปี 2568 บริษัทฯ รับรู้ปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้จากการเปลี่ยนแปลงราคาตามสภาวะตลาด ได้แก่ ขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน และการกลับรายการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ (NRV Reversal) สุทธิ เป็นขาดทุน 55 ล้านบาท กำไรจากตราสารอนุพันธ์เพื่อประกันความเสี่ยงด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ 809 ล้านบาท กำไรทางบัญชีจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ กำไรจากตราสารอนุพันธ์ทางการเงินรวม 441 ล้านบาท รวมถึงรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุน 138 ล้านบาท ผลประกอบการของบริษัทร่วมค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์โพลิโพรพิลีนที่ปรับตัวดีขึ้นจากปริมาณการขายเป็นหลัก