บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)

Last updated: 10 มิ.ย. 2568  |  80 จำนวนผู้เข้าชม  | 

บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)

Digital Edge B.Grimm (TH) เปิดตัวศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ 96 MW มูลค่า 24,520 ล้านบาท

นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า BGRIM ร่วมลงทุนกับบริษัท ดิจิทัล เอดจ์ (สิงคโปร์) โฮลดิ้งส์ จำกัด (ดิจิทัล เอดจ์) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดาต้าเซ็นเตอร์ชั้นนำในเอเชีย ภายใต้ความร่วมมือ Digital Edge B.Grimm (TH) Holding Pte. Ltd, เพื่อพัฒนาศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ไฮเปอร์สเกลและรองรับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขนาด 96 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการ 24,520 ล้านบาท โดยจะเริ่มโครงการ 100 เมกะวัตต์ และมีแผนขยายความร่วมมือเป็น 300 เมกะวัตต์ในอีก 5 ปีข้างหน้า คาดใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 80,000-100,000 ล้านบาท ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มีเป้าหมายที่จะเป็นศูนย์กลางสำคัญสำหรับผู้ให้บริการ AI และคลาวด์ที่ต้องการขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

โดยโครงการระยะแรก 96 เมกะวัตต์ จะแบ่งเป็น 2 เฟส เฟสแรกจะมีกำลังการผลิต 48 เมกะวัตต์ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 16,000 ล้านบาท กำหนด COD ภายในไตรมาส 4/2569 ส่วนที่เหลือจะใช้สำหรับเฟสสอง 48 เมกะวัตต์ กำหนด COD ภายในปี 2571 คาดว่าจะรับรู้รายได้เต็มปีภายในปี 2572 ประมาณ 3,400-4,000 ล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็น EBITDA ประมาณ 2,500 ล้านบาท และคิดเป็นส่วนแบ่งกำไรตามสัดส่วนการถือหุ้น ที่ BGRIM ถือหุ้น 40% จะอยู่ที่ประมาณ 250-500 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2572 เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตามในส่วนของเงินลงทุนนั้น จะใช้เงินลงทุนจากการกู้จากสถาบันการเงิน 70% ส่วนอีก 30% จะมาจากเงินลงทุนของผู้ถือหุ้น ซึ่ง BGRIM ถือหุ้น 40% หรือคิดเป็นประมาณ 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินลงทุนสำหรับเฟสแรก 2,000 ล้านบาท และเฟสสองอีก 1,000 ล้านบาท ส่วนเงินลงทุนที่เหลือจะมาจากพันธมิตร

ด้านนายนพเดช กรรณสูต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจในประเทศไทยและโซลูชั่นธุรกิจอุตสาหกรรม กล่าวว่า โครงการนี้ จะนำเสนอการให้บริการโคโลเคชั่นความหนาแน่นสูง การเชื่อมต่อระหว่างศูนย์ และโซลูชั่นคลาวด์แบบผสมผสาน เพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มไฮเปอร์สเกล กลุ่ม AI และองค์กรที่ต้องการทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัล มีแผนเร่งก่อสร้างเพื่อรองรับความต้องการของบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกที่ต้องการขยายโครงสร้างพื้นฐาน AI ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งเป้าเปิดให้บริการภายในปลายปีหน้า

ส่วนการจัดหาไฟฟ้าสำหรับโครงการนี้จะมาจากไฟฟ้าในระบบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ซึ่งความร่วมมือกับดิจิทัล เอดจ์ ในครั้งนี้ ทาง BGRIM จะทำหน้าที่ในการจัดหาพื้นที่ที่เหมาะสม การขอใบอนุญาตต่างๆ รวมทั้งด้านบุคลากร ขณะที่ทางดิจิทัล เอดจ์ จะทำหน้าที่ออกแบบ รวมถึงการหาลูกค้าระดับไฮเปอร์สเกล

ทั้งนี้มองว่า ตลาดโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของไทยกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด มีการบริโภคข้อมูล การใช้บริการคลาวด์ และการประมวลผล AI /แมชชีนเลิร์นนิ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รายงานอุตสาหกรรมล่าสุดคาดการณ์ว่าตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ของไทย จะเติบโตเฉลี่ยมากกว่า 25% ต่อปีจนถึงปี 2573 ขณะที่ความต้องการด้าน AI จะเป็นตัวเร่งสำคัญในการผลักดันความต้องการศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ที่สามารถขยายตัวได้และมีประสิทธิภาพด้านพลังงาน รัฐบาลไทยได้ให้การสนับสนุนด้านสิทธิประโยชน์การลงทุนกว่า 2.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัลในภูมิภาค

ขณะที่นายจอห์น ฟรีแมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ดิจิทัล เอดจ์ กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดดิจิทัลที่มีศักยภาพสูงสุดในเอเชีย บริษัทกำลังนำโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซ็นเตอร์ระดับโลกที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาดมาสู่ไทย ในขนาดไฮเปอร์สเกลและความเร็วที่เร่งรัด ซึ่งจะช่วยรองรับความต้องการด้าน AI และแมชชีนเลิร์นนิ่งที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ความร่วมมือนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของไทย ปัจจุบันบริษัทมีศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ที่เปิดดำเนินการและอยู่ระหว่างก่อสร้างรวม 24 แห่งครอบคลุม 9 ประเทศ และมีกำลังไฟฟ้าสำรองกว่า 1.1 กิกะวัตต์ ซึ่งการเข้ามาลงทุนในไทยถือว่าใหญ่เป็นอันดับที่ 3 รองจากอินเดียและเกาหลีใต้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้