Last updated: 9 ก.ค. 2568 | 88 จำนวนผู้เข้าชม |
สถานการณ์การใช้น้ำมันเชื้อเพลิง รอบ 5 เดือน (มกราคม - พฤษภาคม) 2568
นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เผยภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เดือนมกราคม - พฤษภาคม 2568 อยู่ที่ 158.44 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยที่น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.3 และการใช้น้ำมันเตาเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.7 ขณะที่กลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 การใช้ LPG ลดลงร้อยละ 2.3 น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ณ สถานีบริการลดลงร้อยละ 1.5 และ NGV ลดลงร้อยละ 16.1
รายละเอียดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละชนิดในเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2568 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน มีดังนี้
การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เฉลี่ยอยู่ที่ 31.85 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 โดยน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 19.22 ล้านลิตร/วัน เนื่องจากแก๊สโซฮอล์ 95 มีส่วนต่างราคาสูงกว่าแก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 0.37 บาท/ลิตร (ราคาเฉลี่ยเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2568) โดยในช่วงเดียวกันของปีก่อนแก๊สโซฮอล์ 95 มีส่วนต่างราคาสูงกว่าแก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 1.39 บาท/ลิตร จึงทำให้ผู้บริโภคเลือกใช้แก๊สโซฮอล์ 95 สูงขึ้นจากปีก่อน ขณะที่การใช้แก๊สโซฮอล์ 91 ลดลงมาอยู่ที่ 6.69 ล้านลิตร/วัน แก๊สโซฮอล์ อี20 ลดลงมาอยู่ที่ 5.15 ล้านลิตร/วัน เบนซิน ลดลงมาอยู่ที่ 0.39 ล้านลิตร/วัน และแก๊สโซฮอล์ อี85 ลดลงมาอยู่ที่ 0.06 ล้านลิตร/วัน พบว่าการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเริ่มเห็นสัญญาณของการชะลอตัวลงโดยมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย อาทิ การขยายตัวของยานยนต์ไฟฟ้า (BEV HEV และ PHEV) มีสัดส่วนร้อยละ 6.3 ของรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ไม่เกิน 7 คน1 รวมถึงการใช้งานระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่มีการขยายตัวของผู้โดยสารอย่างต่อเนื่องคิดเป็นร้อยละ 3.6 2 เทียบกับปีก่อน
การใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ณ สถานีบริการ เฉลี่ยอยู่ที่ 68.53 ล้านลิตร/วัน ลดลงร้อยละ 1.3 ประกอบด้วยดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ลดลงมาอยู่ที่ 68.50 ล้านลิตร/วัน โดยที่การผลิตเพื่อบริโภคภายในประเทศปรับตัวลดลง เป็นผลจากมาตรการภาษีศุลกากรแบบตอบโต้ (reciprocal tariffs) ที่ยังอยู่ในระยะเริ่มต้นและมีความไม่แน่นอนสูง ทำให้การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนชะลอตัวและการลงทุนภาคเอกชนลดลงอย่างต่อเนื่อง1 ถึงแม้ในช่วงไตรมาสแรกภาคการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมจะขยายตัวร้อยละ 0.6 จากไตรมาสก่อน (QoQ) ตามการขยายตัวของการผลิตเพื่อส่งออกสินค้าเป็นสำคัญ สำหรับดีเซลหมุนเร็ว บี20 ลดลงมาอยู่ที่ 0.03 ล้านลิตร/วัน ขณะที่ดีเซลพื้นฐานเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.20 ล้านลิตร/วัน ทั้งนี้ ภาพรวมปริมาณการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลอยู่ที่ 70.73 ล้านลิตร/วัน
การใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ณ สถานีบริการ เฉลี่ยอยู่ที่ 68.22 ล้านลิตร/วัน ลดลงร้อยละ 1.5 ประกอบด้วยดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ลดลงมาอยู่ที่ 68.20 ล้านลิตร/วัน สอดคล้องกับดัชนีการขนส่งสินค้า (Shipment Index) เฉลี่ยเดือนมกราคม-เมษายน ที่หดตัวลงร้อยละ 1.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากปริมาณฝนรวมทั้งประเทศสูงกว่าค่าปกติ โดยในเดือนพฤษภาคมสูงกว่าค่าปกติถึงร้อยละ 52.03 รวมถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังคงฟื้นตัวช้าและความกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ แม้การส่งออกยังคงขยายตัวจากการเร่งส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกาเนื่องจากแรงกดดันจากมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันและเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย4 สำหรับดีเซลหมุนเร็ว บี20 ลดลงมาอยู่ที่ 0.03 ล้านลิตร/วัน ขณะที่ดีเซลพื้นฐานเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.21 ล้านลิตร/วัน ทั้งนี้ ภาพรวมปริมาณการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล อยู่ที่ 70.44 ล้านลิตร/วัน
การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 18.06 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.3 ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากปีก่อน โดยจำนวนผู้เยี่ยมเยือนทั้งคนไทยและต่างชาติขยายตัวร้อยละ 2.05 รวมไปถึงการขยายตัวของบริการขนส่งสินค้าทางอากาศ ในขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยสะสม 5 เดือนแรกของปี 2568 มีจำนวน 14.36 ล้านคน ลดลงร้อยละ 2.7 ซึ่งเป็นการลดลงของนักท่องเที่ยวชาวเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ (โดยเฉพาะจีน) ที่ลดลงร้อยละ 22.86 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากปัจจัยด้านความเชื่อมั่นและเศรษฐกิจภายในประเทศจากนโยบายการค้าโลก
การใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 17.60 ล้านกก./วัน ลดลงร้อยละ 2.3 ผลจากภาคปิโตรเคมีเป็นสำคัญลดลงมาอยู่ที่ 7.33 ล้านกก./วัน และภาคขนส่งลดลงมาอยู่ที่ 2.30 ล้านกก./วัน ขณะที่การใช้ในภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.90 ล้านกก./วัน และภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.07 ล้านกก./วัน
การใช้ NGV เฉลี่ยอยู่ที่ 2.44 ล้านกก./วัน ลดลงร้อยละ 16.1 โดยมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องสอดคล้องกับจำนวนรถจดทะเบียน NGV สะสมที่ลดลง และจำนวนสถานีบริการ NGV ที่มีแนวโน้มปิดตัวลง อย่างไรก็ตาม ปตท. ยังคงช่วยเหลือผ่านโครงการบัตรสิทธิประโยชน์ ให้กับกลุ่มรถแท็กซี่และรถโดยสารสาธารณะ ขณะที่ราคาขายปลีก NGV สำหรับรถทั่วไปปรับเพิ่มขึ้น 0.10 บาท/กก. อยู่ที่ 18.80 บาท/กก. เพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง
การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง เฉลี่ยอยู่ที่ 1,060,825 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 คิดเป็นมูลค่าการนำเข้ารวม 83,004 ล้านบาท/เดือน โดยเป็นการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 1,031,520 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 คิดเป็นมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 81,254 ล้านบาท/เดือน สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันอากาศยาน และ LPG) อยู่ที่ 29,305 บาร์เรล/วัน ลดลงร้อยละ 51.3 คิดเป็นมูลค่าการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ที่ 1,750 ล้านบาท/เดือน
การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เฉลี่ยอยู่ที่ 147,535 บาร์เรล/วัน ลดลงร้อยละ 4.9 เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 12,416 ล้านบาท/เดือน
9 ก.ค. 2568
12 ธ.ค. 2567
8 ก.ค. 2568