บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)

Last updated: 30 ก.ค. 2568  |  509 จำนวนผู้เข้าชม  | 

บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)

GC และ PE LNG ผนึกกำลังเดินหน้าโครงการใช้พลังงานความเย็น
จากก๊าซธรรมชาติเหลวในกระบวนการผลิตโอเลฟินส์ หนุนเป้าหมาย Net Zero

บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ผู้นำในธุรกิจพลาสติกและเคมีภัณฑ์ระดับสากล เพื่อสร้างสรรค์คุณภาพชีวิต และ บริษัท พีอี แอลเอ็นจี จำกัด หรือ PE LNG ซึ่งเป็นธุรกิจร่วมทุนระหว่าง บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด (PTTLNG) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ลงนามในสัญญาความร่วมมือโครงการใช้ประโยชน์จากพลังงานความเย็นของก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) สำหรับโรงผลิตโอเลฟินส์ของ GC ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิตอย่างเป็นรูปธรรม

นายนรินทร์ เผ่าวณิช ประธานกรรมการ บริษัท พีอี แอลเอ็นจี จำกัด กล่าวว่า “พิธีลงนามสัญญาโครงการนี้ ระหว่าง GC และ PE LNG เป็นโครงการที่ใช้พลังงานความเย็นจาก LNG มาลดต้นทุนในกระบวนการผลิต และใช้ทรัพยากรอย่างเกิดประโยชน์สูงสุด ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือของทั้งสององค์กร จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และตอบสนองเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ของประเทศต่อไป” นายนรินทร์กล่าว

นายสมชาย ระมาศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีอี แอลเอ็นจี จำกัด เปิดเผยว่า “โครงการนี้ตั้งอยู่บริเวณสถานีแอลเอ็นจี มาบตาพุดแห่งที่ 2 ณ บ้านหนองแฟบ จังหวัดระยอง ซึ่งจะเป็นการส่งพลังงานความเย็นจาก LNG ผ่านสารตัวกลาง ไปยังโรงงานผลิตโอเลฟินส์ของ GC โดยได้รับอนุมัติอัตราค่าความเย็น
จากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 และคาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี 2570”

“โครงการนี้เป็นความร่วมมือในกลุ่ม ปตท. และ กฟผ. ที่ช่วยต่อยอดธุรกิจด้วยการใช้ประโยชน์จากพลังงานความเย็นในภาคอุตสาหกรรม ลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และตอบสนองเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ได้ในอนาคต” นายสมชาย กล่าวเพิ่มเติม

นายทศพร บุณยพิพัฒน์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “โครงการนี้เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ภายในกลุ่ม ปตท. สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการสร้างการเติบโตควบคู่ไปพร้อมกับความยั่งยืน ผ่านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการใช้เทคโนโลยีสะอาด นำพลังงานความเย็นจาก LNG มาใช้ในโรงงานโอเลฟินส์ของ GC ซึ่งมีลักษณะเฉพาะที่สามารถนำพลังงานความเย็นนี้มาใช้ประโยชน์ได้ โดยโครงการนี้สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 60,000 ตันต่อปี เราหวังว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อยอดนวัตกรรมที่สร้างผลกระทบเชิงบวกทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศต่อไป”

ความร่วมมือนี้จะนำนวัตกรรมการใช้พลังงานความเย็นจาก LNG มาใช้ให้เกิดประโยชน์ผ่านกระบวนการแลกเปลี่ยนความเย็นกับสารตัวกลาง ก่อนส่งต่อไปยังโรงงานโอเลฟินส์ของ GC เพื่อใช้ในกระบวนการผลิต ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ลดการใช้ไอน้ำ และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 60,000 ตันต่อปี โดยคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2570

LNG คือ ก๊าซธรรมชาติที่ถูกลดอุณหภูมิลงมาที่ -160 องศาเซลเซียสเพื่อเปลี่ยนสถานะจากก๊าซเป็นของเหลว ทำให้ขนส่งและจัดเก็บได้สะดวก แต่เมื่อนำกลับมาใช้งานในรูปแบบก๊าซอีกครั้ง ต้องผ่านกระบวนการเปลี่ยนสถานะ LNG จากของเหลวให้กลับเป็นสถานะก๊าซ ดังนั้นจะมีพลังงานความเย็นจำนวนมากที่เหลือใช้ โครงการนี้จึงนำนวัตกรรมมาช่วยบริหารจัดการความเย็นดังกล่าวให้เกิดมูลค่า แทนที่จะสูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ถือเป็นการต่อยอดการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่าเพื่อความยั่งยืนในภาคอุตสาหกรรม

โครงการใช้ประโยชน์จาก LNG สำหรับโรงผลิตโอเลฟินส์ของ GC ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการประสานพลัง ปตท. กฟผ. ที่มุ่งสร้างคุณค่าเพิ่มจากการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และส่งเสริมความยั่งยืนด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้