บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)

Last updated: 31 ก.ค. 2568  |  184 จำนวนผู้เข้าชม  | 

บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)

SCG คาด EBITDA ปีนี้ดีกว่าปีก่อน

นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดว่ากระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (EBITDA) ปีนี้จะเติบโตกว่าปีก่อนที่ทำได้ 54,000 ล้านบาท หลังจากที่ในช่วงครึ่งปีแรกปีนี้มี EBITDA แล้ว 30,320 ล้านบาท ซึ่งดีขึ้นกว่าครึ่งปีหลังของปี 2567 เพิ่มขึ้น 21% จากการปรับพอร์ตการลงทุน การหยุดธุรกิจที่ไม่ทำกำไร และการบริหารจัดการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการของทุกธุรกิจ

โดยยังคงเป้ายอดขายปีนี้จะเติบโต 3-5% จากปีก่อน ขณะที่แนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ คาดว่ายังคงมีความผันผวน เนื่องจากคาดว่าสหรัฐอเมริกาจะเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้ามากกว่าช่วงครึ่งปีแรกที่ 10% ทำให้ต้องเร่งหาตลาดใหม่ ขณะที่ปีนี้ยังคงมีการลงทุน 30,000 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกปีนี้มีการลงทุนไปแล้ว 15,000 ล้านบาท

บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าลดต้นทุน เพื่อแข่งขันกับผู้ผลิตระดับโลก โดยตั้งเป้าปีนี้จะลดต้นทุนได้ 1,200 ล้านบาท โดยในไตรมาสแรกลดต้นทุนไปแล้ว 600 ล้านบาท ส่วนไตรมาสที่สองลดต้นทุนได้แล้ว 300 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังเดินหน้าปรับโครงสร้างการดำเนินการและธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยยังมีโครงการที่ไม่ทำกำไรที่อยู่ระหว่างการพิจารณาหลายโครงการ และจะมีการขยายพอร์ตสินค้าให้รองรับความต้องการตลาดทุกกลุ่ม มีการพัฒนาสินค้ามูลค่าเพิ่มสูง (HVA) มีการขยายฐานการผลิตในอาเซียนเพิ่มขึ้น โดยเน้นผลิตและส่งออกจากประเทศเวียดนาม ที่ได้รับอัตราภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ที่ได้เปรียบอยู่ที่ 20% และมีต้นทุนที่แข่งขันได้ ประกอบกับเป็นประเทศที่มีการเติบโตสูง

ส่วนโครงการปิโตรเคมีคอลส์คอมเพล็กซ์ ในประเทศเวียดนาม (LSP) คาดว่าจะกลับมาเดินเครื่องผลิตในปลายเดือนสิงหาคม 2568 จากตลาดปิโตรเคมีเริ่มดีขึ้นในไตรมาส 2 แม้ว่าจะมีกำลังการผลิตใหม่จากประเทศจีนเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และความต้องการยังไม่เพิ่มขึ้นมาก แต่มีโรงงานปิโตรเคมีหลายโรงงานที่หยุดเดินเครื่องแล้ว ทำให้กำลังการผลิตไม่ได้เพิ่มขึ้นมาก นอกจากนี้การประกาศอัตราภาษีของสหรัฐฯ ส่งผลให้ราคาพลังงานทั่วโลกลดลง ราคาวัตถุดิบปิโตรเคมีลดลงมากกว่าราคาผลิตภัณฑ์ที่ลดลง นอกจากนี้ โครงการ LSP ยังได้มีการลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของโครงการ และมีการนำเข้าอีเทนจากสหรัฐฯ มาเป็นวัตถุดิบ ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง ทำให้ตัดสินใจกลับมาเดินเครื่องอีกครั้ง

ส่วนผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 มีรายได้รวม 249,077 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 18,436 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้