Last updated: 15 ต.ค. 2568 | 111 จำนวนผู้เข้าชม |
ครม. เห็นชอบเชื่อมโยงไฟฟ้าอาเซียน 4 ประเทศ
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับโครงการบูรณาการด้านไฟฟ้าระหว่าง สปป.ลาว ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ฉบับที่ 6 และแถลงการณ์ร่วมสำหรับการประชุมระดับรัฐมนตรีกลุ่มพันธมิตรเอเชียเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ครั้งที่ 3
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับโครงการบูรณาการด้านไฟฟ้าระหว่าง สปป.ลาว ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ฉบับที่ 6 เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันของรัฐมนตรีพลังงานทั้ง 4 ประเทศ ในการสนับสนุนการพัฒนาการซื้อขายไฟฟ้าข้ามพรมแดนแบบพหุภาคีในภูมิภาคอาเซียน ที่เป็นรากฐานสำคัญของการเชื่อมโยงโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าอาเซียน (ASEAN Power Grid: APG) สร้างความยืดหยุ่นของระบบโครงข่ายไฟฟ้า ช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านทางพลังงานของอาเซียนผ่านการลงทุนและส่งเสริมศักยภาพพลังงานหมุนเวียน
โครงการระยะแรก สปป.ลาว ได้ขายไฟฟ้าไปยังสิงคโปร์ ผ่านสายส่งของไทยและมาเลเซีย ปริมาณสูงสุดที่ 100 เมกะวัตต์ และในระยะที่ 2 มาเลเซีย จะขายไฟฟ้าเพิ่มเติมให้กับสิงคโปร์ ซึ่งจะเพิ่มปริมาณการซื้อขายไฟฟ้าเป็น 200 เมกะวัตต์
โครงการนี้เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย ในการสร้างรายได้จากค่าธรรมเนียมการผ่านสายส่งไฟฟ้า (Wheeling Charge) และเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานไฟฟ้าในระยะยาว
การรับรองร่างถ้อยแถลงร่วมฯ มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 16 ตุลาคม 2568 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สหพันธรัฐมาเลเซีย ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 43
นอกจากนี้ ครม. ยังเห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมสำหรับการประชุมระดับรัฐมนตรีกลุ่มพันธมิตรเอเชีย เพื่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Asia Zero Emission Community: AZEC) ครั้งที่ 3 เพื่อยืนยันความมุ่งมั่นร่วมกันของประเทศพันธมิตร 11 ประเทศ (ออสเตรเลีย บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย สปป. ลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม) ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายใต้แนวคิด “เป้าหมายเดียว หลากหลายแนวทาง” โดยมุ่งเน้นการหารือเพื่อแสวงหาแนวทางการลดก๊าซเรือนกระจกในภาคส่วนที่ลดได้ยาก ผ่านการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาด รวมถึงสนับสนุนการพัฒนาตลาดคาร์บอนและการติดตามการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดห่วงโซ่อุปทาน และเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยในการเข้าถึงนวัตกรรมด้านการเงินสีเขียวและกลไกความช่วยเหลือด้านการเงินและความเชี่ยวชาญจากประเทศญี่ปุ่นและประเทศพันธมิตร AZEC
15 ต.ค. 2568
15 ต.ค. 2568
15 ต.ค. 2568