เสนา ร่วมเปิดบ้านประหยัดพลังงานต้นแบบ

Last updated: 26 เม.ย 2563  |  958 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เสนา ร่วมเปิดบ้านประหยัดพลังงานต้นแบบ

เสนา ร่วมมูลนิธิสถาบันพลังงานทางเลือก เปิดบ้านประหยัดพลังงานต้นแบบ ศูนย์เรียนรู้ติดตั้งโซลาร์รูปท็อปให้กับภาครัฐ ส่ง7โครงการทั้งเสนาพาร์ควิลล์ รามอินทรา เสนาทาวน์ รามอินทรา เข้าร่วมโครงการโซลาร์ มูฟ สร้างความเข้าใจกลุ่มครัวเรือนกรุงเทพฯและปริมณฑลเข้าถึงพลังงานทางเลือก

ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA ในฐานะผู้ดำเนินการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการหมู่บ้านโซลาร์เซลล์เต็มรูปแบบรายแรกของไทย เปิดเผยว่า เสนาได้นำโครงการที่ติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคาที่อยู่อาศัย (Solar Rooftop) 7 โครงการ (1,000 หลัง) เข้าร่วมโครงการรณรงค์ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) เข้าสู่ชุมชน เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ของการใช้ไฟฟ้าภาคครัวเรือน หรือ โซลาร์ มูฟ (Solar Move) ที่ดำเนินการโดยมูลนิธิสถาบันพลังงานทางเลือกแห่งประเทศไทย (AEITF) ในการนำโครงการบ้านจัดสรรที่ติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปที่ใช้ในภาคครัวเรือนมาเป็นศูนย์การเรียนรู้ให้กับชุมชนให้เข้าใจและตระหนักถึงความ สำคัญของพลังงานสะอาด

“กองทุนพัฒนาไฟฟ้าจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)ได้จัดสรรงบเพื่อการส่งเสริมสังคมและประชาชนให้มีความรู้ ความตระหนัก และมีส่วนร่วมทางด้านไฟฟ้าตามมาตรา 97(5) ผ่านโครงการโซลาร์ มูฟ ที่ดำเนินการโดยมูลนิธิสถาบันพลังงานทางเลือกฯ มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมสังคมและประชาชนกรุงเทพฯและปริมณฑลในหมู่บ้านจัดสรรประมาณ 200 โครงการ ประมาณ 10,000 ครัวเรือนให้มีความรู้ มีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นพลังงานสะอาด และพร้อมที่จะมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในประเทศซึ่งเสนาเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาฯที่เข้าร่วมโครงการครั้งนี้” ผศ.ดร.เกษรากล่าว

สำหรับโครงการเสนาที่เข้าร่วมโครงการโซลาร์ มูฟ จำนวน 7 โครงการ หรือ ประมาณ 1,000 หลัง ประกอบด้วย 1.โครงการ เสนาพาร์ควิลล์ รามอินทรา 2.เสนาทาวน์ รามอินทรา 3.เสนาช็อปเฮาส์ บางแค-เทอดไท 4.โครงการเสนาอเวนิว บางกะดี่ 5.เสนาช็อปเฮาส์ สุขุมวิท 113 และ6.เสนาช็อปเฮาส์ ลำลูกกา คลอง 2 7.เสนาช็อปเฮาส์ พหล-คูคต เนื่องจากโครงการเหล่านี้ มีการติดตั้งโซลาร์รูปท็อป ทั้งในพื้นที่ส่วนกลางและที่พักอาศัย ซึ่งปัจจุบันมีลูกบ้านเข้าพักอาศัยจำนวนมาก ที่ได้รับประโยชน์จากการติดตั้งระบบดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นการลดค่าใช้จ่าย ค่าไฟฟ้าภายในครัวเรือนและส่วนกลาง ถือเป็นระบบที่มีความทันสมัยโดยการใช้เทคโนโลยีผ่านระบบแอพพลิเคชั่น 360 องศาของเสนา ที่สามารถใช้บนสมาร์ทโฟน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านในการติดตามปริมาณการผลิตไฟฟ้าและการใช้ไฟฟ้าแต่ละชิ้นภายในบ้าน รวมถึงการซ่อมบำรุงแผงโซลาร์ เป็นต้น

“เสนาได้พัฒนาต่อยอดโซลาร์เป็น Solar Scale-Up ช่วยให้ลูกบ้านสามารถปรับ-เพิ่มจำนวนแผงโซลาร์ ได้ตามลักษณะการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน อีกทั้งยังสามารถเลือกช่วงเวลาของการใช้ไฟฟ้าไฟฟ้า ได้ตามพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยภายในบ้าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยประหยัดค่าไฟ พร้อมทั้งรองรับผู้อยู่อาศัยภายในบ้านช่วงเวลากลางวัน” ผศ.ดร.เกษรากล่าว

ทั้งนี้เสนามีแผนในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้วยระบบ โซลาร์รูฟท็อปให้กับทุกโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2563 เสนา ได้เตรียมเปิดโครงการใหม่อีก จำนวน 10 โครงการ รวมมูลค่า 7,500 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 6 โครงการ และแนวราบ 4 โครงการ ซึ่งเสนา มีความเชื่อมั่นในการให้บริการแก่ลูกบ้าน ในการมีระบบพลังงานสะอาดที่สามารถใช้ได้ในที่พักอาศัย เนื่องจากเป็นความตั้งใจ และเป็นเป้าหมายของเสนาที่ต้องการนำระบบโซลาร์เข้ามาใช้ภายในโครงการ ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศโลกร้อน ทำให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติต่างๆ ดังนั้นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานสะอาดจึงมีส่วนสำคัญในการช่วยลดภาวะโลกร้อน และยังเป็นพลังงานที่อยู่ในกระแสของทุกประเทศได้มุ่งส่งเสริมสู่การใช้พลังงานสะอาดให้มากยิ่งขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้