กระทรวงพลังาน

ก.พลังงาน คาดราคาน้ำมันทั้งปี 40-50 เหรียญต่อบาร์เรล

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ กบน. ได้มีการหารือถึงทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยขณะนี้ราคาน้ำมันดิบได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วเมื่อช่วงเดือนเมษายน 2563 โดยราคาได้ปรับลดลงกว่า 10 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่ขณะนี้ราคาน้ำมันดิบได้ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 42 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และคาดว่าทั้งปีจะอยู่ที่ประมาณ 40-50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยยังมีปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ การระบาดของโควิด 19 รอบ 2 ความต้องการใช้น้ำมันและความร่วมมือลดกำลังผลิตของกลุ่มโอเปกพลัส และ สงครามการค้าจีนและสหรัฐ

และมองแนวโน้มราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือ แอลพีจีปีนี้ว่าจะปรับสูงขึ้นแต่ไม่เกิน 400 เหรียญสหรัฐต่อตัน จากปัจจุบันอยู่ที่ 321 เหรียญสหรัฐต่อตัน และเห็นชอบตามคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง.ที่ตรึงราคาขายปลีกก๊าซแอลพีจีที่ 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม 3 เดือนไปจนถึง 30 กันยายน

ทั้งนี้ ประมาณการสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในส่วนของกลุ่มก๊าซแอลพีจีมีรายจ่ายวันละ 7.87 ล้านบาท หรือประมาณ 236 ล้านบาทต่อเดือน ประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 21 มิถุนายน 2563 มีจำนวนสุทธิ 34,199 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมัน 40,617 ล้านบาท บัญชีแอลพีจีติดลบ 6,418 ล้านบาท

นายสนธิรัตน์ กล่าวด้วยว่า ในวันพรุ่งนี้ (25 มิ.ย.) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะมาประชุมที่กระทรวงพลังงาน เพื่อหารือแผนพลังงานสร้างชาติ ซึ่งคาดว่าจะมีเม็ดเงินจากทุกหน่วยงาน ทั้งราชการ และรัฐวิสาหกิจ อาทิ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) บมจ.ปตท. กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง กองทุนส่งเสริมเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน วงเงินรวมกว่า 1 แสนล้านบาท