บ้านปู จำกัด (มหาชน)

Last updated: 25 ก.พ. 2564  |  581 จำนวนผู้เข้าชม  | 

บ้านปู จำกัด (มหาชน)

บ้านปูฯ เผยแผนธุรกิจ 5 ปี ต่อยอดกลยุทธ์ Greener & Smarter

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2563 กลุ่มบ้านปูจะใช้เงินลงทุน 156 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งเป็น งบลงทุน 110 ล้านเหรียญสหรัฐ จะลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ซึ่งมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ประเทศเวียดนาม 2 โครงการ ซึ่งมีกำหนดจะผลิตเชิงพาณิชย์ในปีนี้ และงบลงทุน 46 ล้านเหรียญสหรัฐ จะลงทุนในธุรกิจ Energy Technology ผ่านบริษัท บ้านปูเน็กซ์ จำกัด

โดยในปี 2563 ยังคงสร้างกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่อง ภายใต้การดำเนินมาตรการลดต้นทุน และบริหารงบลงทุนอย่างรัดกุม เพื่อลดผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกซบเซาจากการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส หรือ โควิด-19 ตลอดจนสร้างความต่อเนื่องในการเปลี่ยนผ่านธุรกิจ (Banpu Transformation) สู่โลกยุค Never Normal ด้วยแผนธุรกิจ 5 ปี ฉบับใหม่ สำหรับปี 2564-2568 ที่ต่อยอดกลยุทธ์ Greener & Smarter โดยเร่งกระบวนการเปลี่ยนผ่าน เดินหน้าสู่เป้าหมายความยั่งยืนด้านพลังงาน ด้วยการขยายพอร์ตพลังงานสะอาดและพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานที่ตอบรับกับเทรนด์พลังงานโลก พร้อมรับมือกับทุกความเปลี่ยนแปลงด้วยระบบนิเวศทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน พร้อมสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคง

บ้านปูได้กำหนดแผนธุรกิจ 5 ปี ฉบับใหม่ สำหรับปี 2564-2568 ประกอบด้วย 3 แกนหลักคือ Acceleration เร่งสร้างการเติบโตตามกลยุทธ์ Greener & Smarter ใน 4 ธุรกิจหลัก คือธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ธุรกิจเหมือง ธุรกิจผลิตไฟฟ้า และธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน Antifragile รับมือกับความเปลี่ยนแปลงและวงจรเศรษฐกิจโลกผ่านพอร์ตโซลูชันด้านพลังงานที่ครบวงจร โดยกระจายความเสี่ยง และคว้าโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ และ Augmentation ต่อยอดระบบนิเวศทางธุรกิจปัจจุบันและความเชี่ยวชาญในด้านพลังงานเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ในการสร้างรายได้ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยเร่งกระบวนการเปลี่ยนผ่านไปสู่พอร์ตพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีพลังงานที่สอดคล้องกับเทรนด์พลังงานในอนาคตได้รวดเร็วและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

ภายใต้แผนธุรกิจ 5 ปี มีแนวทางการดำเนินการในกลุ่มธุรกิจหลักทั้ง 3 กลุ่ม ดังนี้ กลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน ทางด้านธุรกิจก๊าซธรรมชาติ จะมุ่งสร้างประสิทธิภาพสูงสุด โดยผสานพลังร่วมระหว่างแหล่งก๊าซธรรมชาติทั้ง 2 แหล่ง โดยจะรักษากำลังการผลิตอยู่ที่ประมาณ 700 ลูกบาศก์ฟุตเทียบเท่าก๊าซธรรมชาติต่อวัน รวมทั้งการคว้าโอกาสเมื่อสถานการณ์ราคาก๊าซเพิ่มสูงขึ้น ด้วยการประกันความเสี่ยงการลงทุน (Hedging) และสร้างความยืดหยุ่นในงบลงทุน (CAPEX Flexibility) นอกจากนี้ จากการที่บริษัท Oaktree Capital Management L.P. (โอ๊คทรี) บริษัทบริหารกองทุนระดับโลก เข้ามาร่วมลงทุนกับ BKV Corporation ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบ้านปู จะช่วยเพิ่มศักยภาพธุรกิจต้นน้ำ และต่อยอดการเติบโตของธุรกิจก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ ของบริษัทฯ สำหรับแนวทางในอนาคต จะมองหาโอกาสการลงทุนต่อยอดในธุรกิจกลางน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ของธุรกิจ สอดรับความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติที่มีแนวโน้มสูงขึ้น
ธุรกิจเหมือง มุ่งเน้นการสร้างกระแสเงินสดในช่วงราคาถ่านหินเพิ่มสูง บริหารต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และจะทำ Coal Trading โยการจัดซื้อถ่านหินจากผู้ผลิตรายอื่นมาขายให้มากขึ้น เพื่อให้สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ได้ตรงตามความต้องการที่แตกต่างของลูกค้าแต่ละราย นอกจากนี้ยังหาโอกาสใช้พื้นที่เหมืองที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเติบโตในธุรกิจเหมืองอื่น ๆ ที่ตอบโจทย์เทรนด์พลังงานแห่งอนาคต ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะมีกำลังการผลิตจากเหมืองในอินโดนีเซีย 23.2 ล้านตัน ออสเตรเลีย 13.3 ล้านตัน และจีน 10.2 ล้านตัน

ธุรกิจผลิตไฟฟ้า เน้นสร้างเสถียรภาพการเดินเครื่องของโรงไฟฟ้าทั้งหมดด้วยดัชนีค่าความพร้อมจ่าย (Equivalent Availability Factor: EAF) ที่สูง และเดินหน้าเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โรงไฟฟ้าต่าง ๆ ตามแผน อีกทั้งมุ่งขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องของโรงไฟฟ้าในจีน ญี่ปุ่น และเวียดนาม สำหรับแนวทางการดำเนินการในอนาคตจะมุ่งเน้นการลงทุนเพิ่มเติมในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน และขยายการลงทุนไปสู่ตลาดใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง เช่น ในสหรัฐอเมริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในสหรัฐอเมริกากำลังมองที่จะต่อยอดสร้างโรงไฟฟ้าจาก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่

กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน มุ่งเน้นการสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด (Scale Up) ขยายระบบนิเวศของธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานเพื่อคว้าโอกาสทางธุรกิจจากเทรนด์ด้านพลังงานใหม่ๆ รวมทั้งชูจุดเด่นการเป็นผู้ให้บริการสมาร์ทโซลูชันด้านพลังงานสะอาดที่ฉลาดขึ้นด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลครบวงจรในธุรกิจระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftops) ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนขนาดใหญ่ (Renewable Energy Power Plant) ธุรกิจระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System หรือ ESS) ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle หรือ EV) ธุรกิจเมืองอัจฉริยะ (Smart City) และธุรกิจแพลตฟอร์มการซื้อขายไฟฟ้า (Energy Trading) นอกจากนี้ ยังเน้นขยายพอร์ตธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน และพัฒนาศักยภาพธุรกิจใหม่ๆ ที่เหมาะกับระบบนิเวศทางธุรกิจของบ้านปู รวมทั้งสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลในการสร้างพลังร่วมระหว่างธุรกิจเดิมกับธุรกิจใหม่ เพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานในอนาคต
ในโลกยุค Never Normal การเดินหน้าสร้างการเติบโตในฐานะผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ ที่มุ่งนำเสนอโซลูชันด้านพลังงานครบวงจร จะต้องทันกับตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภค ตลอดจนเทรนด์พลังงานแห่งโลกอนาคตที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ก็ต้องยืนหยัดก้าวข้ามความท้าทายที่คาดเดาไม่ได้ 5 ปีต่อจากนี้ เราตั้งเป้าว่า ภายในปี 2568 EBITDA จากธุรกิจพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีพลังงานของบ้านปู จะมีสัดส่วนถึงร้อยละ 50 เพื่อเดินหน้าต่อไปอย่างแข็งแกร่งในระยะยาวสู่อนาคตพลังงานเพื่อความยั่งยืน (Smarter Energy for Sustainability)

สำหรับภาพรวมปี 2563 บ้านปูฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการรวม 2,283 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 68,575 ล้านบาท) ลดลงจากปีก่อน 476 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 14,298 ล้านบาท) คิดเป็นร้อยละ 17 มีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA) รวม 563 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 16,910 ล้านบาท) ลดลงร้อยละ 20 จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากราคาถ่านหินและก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลดลง และรายงานผลขาดทุนสุทธิจำนวน 56 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,682 ล้านบาท)

นายกิรณ ลิมปพยอม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปูเพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บ้านปูมีแผนที่จะผลิตไฟฟ้า 3,309 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน 2,403 เมกะวัตต์ และพลังงานหมุนเวียน 906 เมกะวัตต์ โดยในปีนี้จะมีการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการโรงไฟฟ้าในเวียดนาม คือ ซอกจัง 56 เมกะวัตต์ วินเจา 30 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่น 30 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายโครงการที่อยู่ระหว่างการทำดิวดิลิเจ้นท์ ซึ่งอาจจะมีโครงการโรงไฟฟ้าขนาด 1,000 เมกะวัตต์ ในปีนี้คาดว่าจะปิดดีลได้ 1-2 โครงการ และโครงการพลังงานหมุนเวียนอีก 100-200 เมกะวัตต์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้