กรมธุรกิจพลังงาน

Last updated: 3 มี.ค. 2564  |  412 จำนวนผู้เข้าชม  | 

กรมธุรกิจพลังงาน

การใช้น้ำมัน ม.ค. ลดลง 19.6%

นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวถึงภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันเดือนมกราคม 2564 ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2563 ร้อยละ 19.6 โดยกลุ่มเบนซินลดลงร้อยละ 14.0 กลุ่มดีเซลลดลง ร้อยละ 9.3 น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) ลดลงร้อยละ 82.0 น้ำมันเตาเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.6 น้ำมันก๊าดลดลงร้อยละ 18.1 LPG ลดลงร้อยละ 8.1 และ NGV ลดลงร้อยละ 33.4 สาเหตุสำคัญมาจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่กลับมาแพร่ระบาดอีกครั้งเมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2563 ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้เชื้อเพลิงชะลอตัว

การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เฉลี่ยอยู่ที่ 27.3 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2563 ปีก่อนร้อยละ 14.0 โดยการใช้น้ำมันเบนซินลดลงมาอยู่ที่ 0.7 ล้านลิตร/วัน (ลดลง ร้อยละ 18.4) สำหรับกลุ่มแก๊สโซฮอล์ปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 26.6 ล้านลิตร/วัน (ลดลง ร้อยละ 13.9) เมื่อพิจารณาแยกชนิดน้้ามัน พบว่า แก๊สโซฮอล์ อี85 ปริมาณการใช้ลดลงมากที่สุดโดยลดลงมาอยู่ที่ 0.6 ล้านลิตร/วัน (ลดลง ร้อยละ 47.0) รองลงมาเป็นแก๊สโซฮอล์ 91 ปริมาณการใช้อยู่ที่ 6.7 ล้านลิตร/วัน (ลดลงร้อยละ 27.0) แก๊สโซฮอล์ อี 20 ปริมาณการใช้อยู่ที่ 5.4 ล้านลิตร/วัน (ลดลงร้อยละ 18.6) และแก๊สโซฮอล์ 95 ปริมาณการใช้อยู่ที่ 14.0 ล้านลิตร/วัน (ลดลง ร้อยละ 0.3) ความต้องการใช้ลดลงเป็นผลมาจากสถานการณ์ COVID-19 ที่กลับมาแพร่ระบาดอีกครั้งเมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคม 2563 ต่อเนื่องมาจนถึงเดือนมกราคม 2564 ท้าให้ภาครัฐต้องออกมาตรการควบคุมพื้นที่

การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ 61.0 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2563 ร้อยละ 9.3 สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 มีปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 37.1 ล้านลิตร/วัน (ลดลงร้อยละ 31.7) น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ซึ่งเริ่มจ้าหน่ายตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2562 มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 21.5 ล้านลิตร/วัน และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 มีปริมาณ การใช้อยู่ที่ 1.0 ล้านลิตร/วัน

การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 4.0 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2563 ร้อยละ 82.0 เนื่องด้วยสถานการณ์ COVID-19 ส่งผลให้การเดินทางโดยเครื่องบินและการใช้น้ำมัน Jet A1 ยังคงอยู่ในระดับต่ำ

การใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 15.4 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 8.1 โดยปริมาณการใช้ในภาคขนส่งลดลงมากที่สุด โดยมีการใช้อยู่ที่ 1.6 ล้านกก./วัน (ลดลง ร้อยละ 36.6) รองลงมาเป็นภาคปิโตรเคมี ซึ่งมีการใช้อยู่ที่ 6.2 ล้านกก./วัน (ลดลง ร้อยละ 4.5) ถัดมาเป็นภาคครัวเรือนมีการใช้อยู่ที่ 5.7 ล้านกก./วัน (ลดลง ร้อยละ 3.1) ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมมีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 1.8 ล้านกก./วัน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 3.4)

การใช้ NGV เฉลี่ยอยู่ที่ 3.3 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 33.4 โดยเป็นผลจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ประกอบกับจำนวนสถานีบริการและรถ NGV ที่ลดลง

การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง เฉลี่ยอยู่ที่ 924,359 บาร์เรล/วัน ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2563 (ลดลง ร้อยละ 9.6) โดยการนำเข้าน้ำมันดิบลดลงมาอยู่ที่ 903,187 บาร์เรล/วัน (ลดลง ร้อยละ 7.7) ในขณะที่มูลค่าการนำเข้าลดลงมาอยู่ที่ 46,079 ล้านบาท/เดือน (ลดลง ร้อยละ 31.1) เนื่องจากปริมาณการนำเข้าและราคาน้ำมับดิบในตลาดโลกลดลง ส้าหรับการนำเข้า น้ำมันส้าเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) ลดลงมาอยู่ที่ 21,173 บาร์เรล/วัน (ลดลง ร้อยละ 51.2) คิดเป็นมูลค่านำเข้ารวม 1,246 ล้านบาท/เดือน

การส่งออกน้ำมันส้าเร็จรูป เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG โดยปริมาณส่งออกลดลงอยู่ที่ระดับ 152,179 บาร์เรล/วัน (ลดลงร้อยละ 11.2) คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 8,376 ล้านบาท/เดือน (ลดลง ร้อยละ 27.9)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้