กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ

กระทรวงพลังงานเปิดให้ยื่นขอสัมปทานปิโตรเลียม ครั้งที่ 23 จำนวน 1 แปลง

รายงานข่าวจาก กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ลงนามในประกาศเรื่องเปิดให้มีการยื่นคำขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมสำหรับแปลงสำรวจบนบก เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2564 ซึ่งเป็นการให้มีการประมูลสัมปทานปิโตรเลียม ครั้งที่ 23 โดยจะเปิดให้มีการยื่นคำขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในแปลงสำรวจเขตพื้นที่บนบก จำนวน 1 แปลง ในรูปแบบสัมปทานปิโตรเลียม

สำหรับพื้นที่แปลงสำรวจบนบกที่เปิดให้ยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ครั้งที่ 23 คือ L1/64 ครอบคลุมพื้นที่ 78.90 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วย L1/64 Area A พื้นที่ประมาณ 67.66 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่ใหม่ที่ยังไม่เคยมีการผลิตปิโตรเลียมมาก่อน (Greenfield) และ L1/64 Area B พื้นที่ประมาณ 11.24 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เคยมีการผลิตหิโตรเลียมมาก่อนแล้ว (Brownfield)

นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า การเปิดให้มีการยื่นขอสัมปทานในครั้งที่ 23 จำนวน 1 แปลงนี้ เป็นพื้นที่ที่อยู่ติดกับแหล่ง S1 ซึ่งเป็นแอ่งปิโตรเลียมขนาดใหญ่ที่มีการผลิตอยู่แล้ว เป็นแหล่งที่มีศักยภาพด้านน้ำมันดิบ ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร และสุโขทัย โดยการเปิดเพียงแปลงเดียว เนื่องจากแปลงที่เป็นพื้นที่ที่เคยมีการผลิตแล้วของบริษัท CNPC แต่หมดอายุสัมปทานภายใต้ Thailand III ไปเมื่อเดือน มีนาคม-เมษายน ที่ผ่านมา จึงต้องการให้มีการผลิตอย่างต่อเนื่องในแปลงนี้ เหมือนแหล่งเอราวัณและบงกช จึงแยกออกมาประกาศให้มีการยื่นขอสัมปทานเข้ามา ซึ่งในครั้งนี้ได้มีการเปิดพื้นที่ใหม่ด้วยที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง คือ Area A เพื่อจะได้ทำการสำรวจในพื้นที่บริเวณโดยรอบแอ่งพิษณุโลกเพิ่มเติม

โดยผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องเสนอขอรวมทั้ง Area A และ Area B ซึ่งจะเปิดให้ยื่นข้อเสนอได้ภายในวันที่ 29 กรกฎาคม ถึง 2 สิงหาคม 2564 นี้

ทั้งนี้ พื้นที่สัมปทานเดิมที่เคยมีการผลิตอยู่แล้ว ซึ่งมีการผลิตน้ำมันดิบมาแล้วประมาณ 20 ปี มีอัตราการผลิตน้ำมันดิบประมาณ 300-500 บาร์เรล/วัน ซึ่งถือเป็นแหล่งที่เล็กมาก แต่ยังมีศักยภาพในการผลิตน้ำมันดิบอยู่ จึงคาดว่าผู้ที่สนใจเข้ามายื่นคำขอน่าจะเป็นผู้รับสัมปทานรายเดิม หรือผู้ลงทุนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น CNPC, SK, Apico เป็นต้น

สำหรับผู้ที่จะยื่นเสนอขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม จะต้องยื่นผลประโยชน์พิเศษเพิ่มเติม นอกเหนือไปจากการชำระค่าภาคหลวง ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม และผลประโยชน์ตอบแทนพิเศษตามกฎหมายตลอดระยะเวลาที่ได้รับสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม โดยผู้ขออาจเสนอให้ผลประโยชน์พิเศษ เช่น เงินอุดหนุนเพื่อการพัฒนาประสิทธิภาพองค์กรและการมีส่วนร่วม การสนับสนุนเงินเพื่อการศึกษา หรือการพัฒนาชุมชนในท้องถิ่นด้วยก็ได้ แต่ต้องเสนอผลประโยชน์พิเศษ คือ ต้องเสนอเงินให้เปล่าในการลงทุนไม่น้อยกว่า 120,000 ดอลลาร์สหรัฐ และต้องเสนอเงินให้เปล่าในการผลิตเป็นจำนวนไม่น้อยกว่าครั้งละ 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อมีปริมาณการขายหรือจำหน่ายน้ำมันดิบทุก 100,000 บาร์เรล จนถึง 3.3 ล้านบาร์เรล

หากมีผู้ยื่นขอมากกว่าหนึ่งราย จะพิจารณาเปรียบเทียบข้อผู้พันด้านปริมาณงานและปริมาณเงินของโครงการสำรวจ 80 คะแนน และผลประโยชน์พิเศษที่เสนอให้แก่รัฐ 20 คะแนน โดยการพิจารณาโครงการสำรวจจะพิจารณาจากปริมาณงานที่เสนอว่ามีความสอดคล้องกับเหตุผลทางธรณีวิทยาของพื้นที่แปลงสำรวจ และปริมาณเงินที่เสนอมีความเหมาะสมกับปริมาณงานที่จะกระทำหรือไม่