ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)

เอสซีจี เคมิคอลส์ เพิ่มทุนใน PT. Chandra Asri Petrochemical 1.4 หมื่นล้านบาท

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้ บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนใน PT. Chandra Asri Petrochemical Tbk (CAP) ประเทศอินโดนีเซีย เป็นจำนวนเงิน 434 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 14,260 ล้านบาท เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นใน CAP ที่ 30.57% โดยจะเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนเป็นจำนวนเงิน 327 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะนำไปลงทุนในโครงการ Petrochemical Complex แห่งที่ 2 (CAP2) โดยราคาหุ้นเพิ่มทุนขึ้นอยู่กับราคาที่ CAP จะประกาศต่อไป

โดย เอสซีจี เคมิคอลส์ จะลงทุนเพิ่มอีก 107 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ CAP อนุมัติการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (Final Investment Decision) ในโครงการ CAP2 ซึ่งคาดว่าจะอนุมัติภายในปี 2565

เอสซีจี เคมิคอลส์ ได้เข้าซื้อหุ้น CAP ครั้งแรกในปี 2554 ที่สัดส่วน 30% หลังจากนั้นได้มีการซื้อหุ้นเพิ่มทุนเพิ่มเติมใน CAP เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และขยายกำลังการผลิต ทำให้ปัจจุบัน เอสซีจี เคมิคอลส์ มีสัดส่วนการถือหุ้นใน CAP จำนวน 30.57%

โดยเห็นว่าการลงทุนใน CAP เป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์เพื่อขยายธุรกิจปิโตรเคมีไปยังประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีตลาดสินค้าปิโตรเคมีที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน และมีอัตราการเติบโตสูง

ในขณะที่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ได้เข้าร่วมลงทุนรายใหม่ PT. Chandra Asri ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของโครงการ CAP2 ในด้านวัตถุดิบ

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2564 กลุ่มเอสซีจีมีรายได้จากการขาย 133,555 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาขายของสินค้าเคมีภัณฑ์เพิ่มขึ้น และมีกำไรสุทธิ 17,136 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากส่วนต่างราคาสินค้าเคมีภัณฑ์และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น

ส่วนผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของปี 2564 เอสซีจีมีรายได้จากการขาย 255,621 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 32,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 96% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาขายและส่วนต่างราคาของสินค้าเคมีภัณฑ์เพิ่มขึ้น และมีส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทฯ ยังมีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรกของปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 8.50 บาท